ฟีเจอร์ฟิตเนสคาร์ดิโอ สำคัญต่อสุขภาพอย่างไร? พร้อมใช้งานแล้ววันนี้บน Apple Watch

By Whats New

iOS 14.3 และ watchOS 7.2 ช่วยให้ผู้ใช้ Apple Watch สามารถดูระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอของตนเองในแอพสุขภาพบน iPhone และรับการแจ้งเตือนบน Apple Watch ได้ หากค่าที่วัดได้นั้นต่ำกว่าเกณฑ์ ผู้ใช้ Apple Watch สามารถวัดระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอที่ต่ำกว่าเกณฑ์ได้อย่างง่ายดายด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่อยู่เบื้องหลัง watchOS 7 ทั้งยังรับการแจ้งเตือนฟิตเนสแบบคาร์ดิโอซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้พวกเขาแอ็คทีฟยิ่งขึ้น เพื่อผลลัพธ์ต่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว
ความแข็งแรงของหัวใจและปอดจากการวัดค่า VO2 max คือปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ร่างกายสามารถใช้ในระหว่างการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นได้เมื่อมีการออกแรง Apple Watch สามารถประเมินค่าเฉลี่ยและระดับสูงสุดของ VO2 max ในขณะทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างหนักหน่วงไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือปีนเขา โดยนักวิ่งและนักกีฬาประเภทต่างๆ จะคอยติดตามดูค่านี้เพื่อพัฒนาสมรรถภาพของตนเอง
ตอนนี้ Apple Watch ที่มาพร้อม watchOS 7 ใช้เซ็นเซอร์หลายตัวทั้งเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล, GPS และอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวในการประเมินระดับฟิตเนสที่ต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะโดยปกติแล้วการวัดค่า VO2 max จะต้องใช้การทดสอบทางคลินิกอย่างเข้มข้นด้วยอุปกรณ์พิเศษ ที่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงได้ นอกจากนี้ watchOS 7 ยังทำให้ Apple Watch วัดระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอได้ในขณะที่ผู้ใช้เดินไปมาในระหว่างวัน แม้จะไม่ได้ติดตามการออกกำลังกายก็ตาม ด้วยนวัตกรรมนี้ Apple Watch จึงวัดค่า VO2 max ได้ดีกว่า สำหรับผู้ใช้ที่มีระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอต่ำซึ่งอาจไม่สามารถออกกำลังกายแบบเข้มข้นได้
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในปี 2016 สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาได้ค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำกับความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพร้ายแรงหลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน ในวัยที่เพิ่มมากขึ้น งานวิจัยยังบ่งชี้ด้วยว่าระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเสียชีวิตที่สำคัญยิ่งกว่าปัจจัยเสี่ยงทั่วไปอย่างการสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง
“ฟิตเนสแบบคาร์ดิโอได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นว่าเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของสุขภาพโดยรวม และการอัพเดท watchOS 7 ในวันนี้จะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงสิ่งนี้ได้มากขึ้น” Jeff Williams ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าว “การใช้เซ็นเซอร์อันล้ำสมัยทำให้ตอนนี้ Apple Watch นำการประเมินระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอที่ต่ำกว่าเกณฑ์จากห้องทดลองมาไว้บนข้อมือของผู้ใช้ได้แล้ว ทีนี้ ทุกคนก็จะเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าพวกเขาควรดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นอย่างไรในระยะยาวด้วยกิจกรรมที่ทำเป็นประจำทุกวัน”
“ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาได้ระบุว่าระดับความแข็งแรงของหัวใจและปอดที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดและการเสียชีวิตอื่นๆ สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาเน้นที่การช่วยเหลือให้ทุกคนดำรงชีวิตที่มีสุขภาพดีและยืนยาวได้อย่างเท่าเทียมกัน และเราเชื่อว่าโซลูชั่นจากเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูแลสุขภาพของตนเองให้แก่ทุกคน” Nancy Brown ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกากล่าว
วันนี้ iOS 14.3 และ watchOS 7.2 เปิดโอกาสผู้ใช้ Apple Watch เข้าไปดูหมวดหมู่ฟิตเนสแบบคาร์ดิโอในแอพสุขภาพบน iPhone เพื่อตรวจสอบว่าระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอของตนเองนั้นอยู่สูงกว่าเกณฑ์ อยู่ในค่าเฉลี่ย ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย หรือต่ำกว่าเกณฑ์ เมื่อเทียบกับคนในกลุ่มอายุเดียวกัน และเพศเดียวกัน ตามฐานข้อมูลของ Fitness Registry and Importance of Exercise National Database (FRIEND) ผู้ใช้ยังสามารถดูได้ด้วยว่าระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอของตนเองนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ในช่วงสัปดาห์ ช่วงเดือน หรือช่วงปี ที่ผ่านมา ถ้าระดับฟิตเนสของผู้ใช้อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ พวกเขาก็สามารถรับการแจ้งเตือนบน Apple Watch พร้อมด้วยคำแนะนำในการปรับปรุงระดับฟิตเนสให้ดีขึ้นในอนาคต รวมถึงเรื่องที่ควรพูดคุยกับแพทย์ประจำตัวด้วย
ผู้ใช้ Apple Watch สามารถเข้าไปที่แอพสุขภาพใน iPhone เพื่อตั้งค่าคุณสมบัติระดับฟิตเนสแบบคาร์ดิโอและเปิดการแจ้งเตือนฟิตเนสแบบคาร์ดิโอได้

Tagged under: