รู้จัก Home WiFi Network เพื่อให้คุณใช้งานอย่างไหลลื่น

By Tips and Tricks

หากพูดเรื่องการใช้งานอินเตอร์เน็ตตามบ้าน ในยุคนี้คงเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ รวมไปถึงการใช้ Wireless ก็เช่นกัน เพราะการใช้งานอินเตอร์เน็ต ได้สร้างความต้องการไปทั่วทั้งบ้าน รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกเหนือไปจากการใช้งาน คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์โมบายดีไวซ์ อย่าง แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน แต่เมื่อความสะดวกการใช้งานอินเตอร์เน็ตกระจายไปทุกบ้าน ทำให้การใช้งานอินเตอร์เน็ต เริ่มเจอปัญหา เล่นได้บ้างไม่ได้บ้าง ช้าบ้างเร็วบ้าง วันนี้เลยอยากแนะนำอีกหนึ่งการจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมไปทั่วทั้งบ้าน โดยเฉพาะการใช้งานแบบ Wireless ที่เป็นที่แพร่หลาย รวมไปถึงอุปกรณ์เน็ตเวิร์คสุดอัจฉริยะที่อยากนำเสนออย่าง Linksys VELOP Mesh WiFi เพื่อเป็นทางเลือกในการจัดการเน็ตเวิร์คภายในบ้าน

แต่ก่อนเริ่มเซ็ตการใช้งาน เราควรทำความรู้จักกับ Wireless Channel  โดยทั่วไปจะใช้งานความถี่อยู่ที่ 2.4 GHz โดยสัญญาณ Wireless Channel 1 ช่องมีความกว้างของสัญญาณถึง 20 – 40 MHz ขึ้นอยู่กับ มาตรฐานของ Wireless ว่ารองรับมาตรฐาน IEEE 802.11 แบบใด (สำหรับ Wireless IEEE 802.11ac มีความกว้างของความถี่สูงถึง 80 MHz เลยทีเดียว)

ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_WLAN_channels

สำหรับการใช้งาน Wireless Channel ในประเทศไทยนั้น มีทั้งหมด 11 Channel ซึ่งบ้างประเทศมีถึง 14 Channel ขึ้นอยู่กับการอนุญาติขอใช้คลื่นความถี่ของอุปกรณ์แต่ละประเทศนั้น ๆ แต่ถึงแม้ว่าในบ้านเราจะมีใช้งาน Wireless Channel อยู่ที่ 11 ช่อง โดยแบนด์วิดท์หรือความกว้างของช่องสัญญาณ Wireless Channel อยู่ที่ 5 MHz  และจะต้องมีช่องความถี่ข้างเคียง อีก 4 ช่อง รวมไปถึง Guardband สำหรับ Wireless มาตรฐานเก่าอย่าง 802.11b ทำให้เสียเพิ่มความกว้างสัญญาณในการใช้งานยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าหากเราเลือกใช้ Wireless ตามมาตรฐาน 802.11b จะใช้ช่องสัญญาณ ที่เหมาะสมได้ที่ Channel 1 , 6 , 11 เท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่ามีช่องสัญญาณน้อยมาก แต่หากเราต้องการขยายพื้นที่ในการส่งข้อมูลให้เร็วยิ่งขึ้น เปลี่ยนมาใช้เป็น มาตรฐาน 802.11n ซึ่งมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่มากขึ้น ความกว้างช่องสัญญาณสูงถึง 40 MHz  ซึ่งทำให้ความเร็วในการส่งข้อมูลมากยิ่งขึ้น แต่เราต้องแลกมาด้วยช่องสัญญาณการใช้งานที่ลดลงหากเรายังใช้ความถี่ที่ 2.4 GHz อยู่จะเหลือเพียง 2 ช่อง เท่านั้น คือ Channel 3 , 11 ตามภาพ

ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_WLAN_channels

หากลองคำนึงถึงการใช้งานรอบ ๆ บ้านของคุณ คงพอเริ่มเข้าใจแล้วว่า หากเราใช้งาน Wireless Router ทั่ว ๆ ไป ที่มาจากผู้ใช้บริการ อาจเริ่มส่งผลต่อความเร็ว เนื่องจากเราต้องใช้ความถี่ของการใช้งาน WiFi ความถี่ที่ทับกับความถี่เพื่อบ้านในบริเวณรอบ ๆ บ้านของคุณ ซึ่งเราสามารถตรวจเช็คผ่านแอพ WiFi Explorer ได้ที่ลิ้งค์นี้ https://itunes.apple.com/us/app/wifi-explorer

ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/WiFi_Explorer

Wireless 5 GHz คลื่นความถี่ที่เป็นทางเลือกหลักในยุคปัจจุบัน เนื่องจากอุปกรณ์การเชื่อมต่อส่วนใหญ่ ใช้งานที่คลื่น 2.4 GHz (รองรับ มาตรฐาน 802.11g/n) มี Channel ใช้งานเพียง 3 ช่อง เท่านั้น ซึ่งต่างจากความถี่ 5 GHz ที่ใช้ความถี่ที่สูงกว่า ทำให้มีจำนวน Channel มากถึง 42 ช่อง กว้างมากพอที่จะใช้งาน ด้วยแบนด์วิดท์ที่ใหญ่ 1.3 Gbps ที่มาตรฐาน 802.11ac นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Beam-forming ที่จะปรับมุมองศาของเสา Antenna และบีบสัญญาณให้ส่งไปเชื่อมกับอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณโดยตรง ทำให้ทำงานได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น แต่หากมีอุปกรณ์เชื่อมต่อหลายตัว ความสามารถนี้ก็จะใช้งานได้ไม่เต็มที่ จึงจำเป็นต้องมี Access Point เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะได้รับสัญญาณที่ดีขึ้น

แม้ว่า Wireless 5 GHz จะมีข้อดีเพียงใดแต่ก็ยังมีข้อจำกัดในความสามารถบางอย่าง ทำให้ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม ไม่ว่าจะเป็นประเภท Access Point , WiFi Range Extender ที่เสริมเข้ามาช่วยในการใช้งาน และหากมีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่ง ชำรุด ระบบในบริเวณนั้นก็จะขาดหายไปด้วยเช่นกัน ทำให้การใช้งาน Home Wireless Network ภายในบ้านต้องการเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น

Mesh WiFi เทคโนโลยีการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi แบบใยแมงมุมที่จะมาเติมเต็มความสามารถให้เราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี Mesh จะมีการเชื่อมโยงลักษณะใยแมงมุมและตรวจสอบอุปกรณ์ที่อยู่ในเน็ตเวิร์ค Mesh เดียวกันแบบอัตโนมัติ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์การเชื่อมต่อแบบสมบูรณ์ ทำให้ทุกชุดที่มีการเชื่อมโยงหากัน เป็นเสมือนเครือข่ายเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่วงเดียว แต่หากเกิดมีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเสียหาย ในการเชื่อมต่อ ณ จุดโหนดใด โหนดหนึ่ง เทคโนโลยี Mesh จะทำการสลับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โหนดอื่น แทนทันที ระบบจะไม่ล้ม ซึ่งต่างจากเดิมที่ไม่มีระบบนี้ หากสัญญาณการเชื่อมต่อมีปัญหา จะทำการเราเชื่อมต่อใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่ได้ หรือถูกตัดขาดทันที

Mesh ดีอย่างนี้ แล้วทำไมถึงพึ่งเป็นที่นิยม เนื่องจากก่อนหน้านี้ เทคโนโลยี Mesh Wi-Fi ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง และการจัดสรรเรื่องความกว้างของสัญญาณ หรือ Bandwidth ในสมัยก่อนยังมีข้อจำกัดมากมาย หากเราขยาย Hops หรืออุปกรณ์ต่อขยาย อย่าง WiFi Repeater ออกไปเพื่อขยายวงเครือข่ายให้กว้างขึ้น Bandwidth จะถูกลดทอนลงครึงหนึ่ง ทำให้การใช้งานยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

แต่ในปัจจุบัน ระบบเน็ตเวิร์คได้พัฒนาเทคโนโลยี การรับส่งสัญญาณแบบ Dual-Band และ Tri-Band ทำให้เทคโนโลยี Mesh ในยุคใหม่เริ่มมีบทบาทสำคัญในการใช้งานอีกครั้ง โดยได้นำเทคโนโลยี WiFi  802.11ac ที่ทำงานคลื่นความถี่ 5 GHz มาใช้ในการรับ-ส่งข้อมูล ควบคู่กับ WiFi 802.11n ที่คลื่น 2.4 GHz ทำให้ขยาย Bandwidth ที่กว้างมากยิ่งขึ้น ถึง 1300 Mbps หรือ AC1300 สำหรับ Dual-Band และสัญญาณแบบ Tri-Band WiFi ที่ใช้คลื่นความถี่ 5 GHz ย่าน 1 , คลื่นความถี่ 5 GHz อีกย่าน พร้อมกับคลื่นความถี่ 2.4 GHz ทำให้รองรับการรับ-ส่งข้อมูลได้ดีมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม โดยการเชื่อมโยงของระบบ Mesh แม้ว่าจะถูกดึงสัญญาณไปบางส่วน แต่ด้วยความสามารถ

ในบทความนี้ขอยกตัวอย่าง Linksys VELOP Mesh WiFi  ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์เน็ตเวิร์คอีกหนึ่งแบรนด์ดังที่ใช้เทคโนโลยี Mesh WiFi ที่เพิ่มความน่าสนใจในการจัดสรรการเชื่อมต่อแบบชาญฉลาด โดยในอุปกรณ์ Linksys VELOP Mesh WiFi จะเป็นได้ทั้ง WiFi Router พึ่งเป็นตัวมาสเตอร์ในการเริ่มกระจายสัญญาณ และยังสามารถเป็นโหนดเชื่อมต่อ เพื่อรับสร้างโครงใยแมงมุม โดยมีให้เลือกซื้อใช้งานแบบ Dual-Band ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ใช้งานได้ที่คลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz พร้อม ๆ กัน อย่างละช่อง และแบบ Tri-Band  ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ใช้งานที่คลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz จำนวน 2 ช่อง ทำให้การใช้งานมีความเสถียร และรับส่งข้อมูลได้ดีกว่า

นอกจากนี้ Linksys VELOP Mesh WiFi จะมี AI ในการเช็คสัญญาณคลื่นความถี่ที่เหมาะสมที่สุด และปรับเปลี่ยนคลื่นใช้งานให้แบบอัตโนมัติ  และทำให้ Linksys VELOP จึงมีเพียงชื่อ WiFi (SSID) เพียงชื่อเดียวสำหรับเชื่อมต่อ อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้ทุกอุปกรณ์ของ Linksys VELOP Mesh WiFi มีรูปแบบการทำงานที่เหมือนกันทั้งหมด ทำให้การเลือกใช้งาน ของ Linksys VELOP Mesh WiFi เป็นได้ทั้ง WiFi Router และ Hops สำหรับขยายวงเครือข่าย โดยมี SSID เพียงชื่อเดียว แม้ว่าคุณจะเลือกต่ออุปกรณ์กับตัวไหนอยู่ก็ตาม

Linksys VELOP Mesh WiFi ที่อำนวยความสะดวกสำหรับคุณ

หากคุณกำลังเซ็ตระบบเน็ตเวิร์คแบบ WiFi สำหรับใช้งานอินเตอร์เน็ตไร้สายให้ครอบคลุมทั่วทุกบริเวณบ้าน แต่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการเซ็ตเน็ตเวิร์คที่มีความซับซ้อน แต่ได้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมที่สุด  Linksys VELOP Mesh WiFi ถือเป็นตัวเลือกต้น ๆ ที่น่าสนใจ มีเต็มไปด้วยเทคโรโลยีอัจฉริยะในการจัดการ Wireless Channel ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับการเซ็ต ช่องสัญญาณเน็ตเวิร์ตที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณทับซ้อนกันของ WiFi ทำให้ลดปัญหาการแออัดสัญญาณ  เพื่อได้ช่องสัญญาณที่ดีที่สุด  รวมไปถึงการที่พร้อมเชื่อมต่ออุปกรณ์ร่วมกับ Linksys VELOP Mesh WiFi อื่น ๆ เพื่อรวมเข้าไว้เป็นวงเครือข่ายเดียวกัน และให้คุณเชื่อมต่อผ่านชื่อ WiFi (SSID) เพียงชื่อเดียว ก็สามารถใช้งานได้

เทคโนโลยี Mesh Wi-Fi จาก Linksys VELOP มีจุดเด่นที่น่าสนใจคือคุณสามารถเพิ่มอุปกรณ์ รุ่นเดียวกัน เพื่อขยายสัญญาณ WiFi ให้กว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ Hops อย่างเหมาะสมใน  อาทิ

  • อพาร์ตเมนต์หรือห้องพัก ใช้แพ็ค 1 ดีไวซ์
  • สำหรับบ้านพักแบบ 2-3 ห้องนอน ใช้แพ็ค 2 ดีไวซ์
  • บ้านหรืออาคาร 3-4 ห้องนอน  ใช้แพ็ค 3 ดีไวซ์

สำหรับบางท่าน อาจสงสัยว่า “แล้วถ้าเรามีอุปกรณ์ WiFi Router Modem อยู่แล้ว แล้วอยากมาเปลี่ยนใช้งานอุปกรณ์เน็ตเวิร์ตที่มี เทคโนโลยี Mesh WiFi อย่าง Linksys VELOP จะคุ้มไหม “ ซึ่งแน่นอน หากเรามีอุปกรณ์เน็ตเวิร์ตเดิมอยู่แล้ว และต้องการหาอุปกรณ์เสริม ประเภท WiFi Repeater คุณภาพดี ๆ สักตัว ที่รองรับมาตรฐาน 802.11ac  ราคาอาจจะสูง และต้องมาเซ็ตติดตั้ง เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับวงเน็ตเวิร์คที่มีอยู่แล้วก่อนหน้า คงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน และหากเราใช้งานอุปกรณ์ WiFi Repeater ทั่วไปมาเชื่อมต่อ ก็อาจจะทำให้เราได้คลื่นสัญญาณหลาย ๆ ตัว เกิดเป็นชื่อ WiFi หลาย SSID ให้เราใช้งาน  ทำให้มีความยุ่งยากในการใช้งาน

แต่สำหรับ Linksys VELOP Mesh WiFi Router จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เข้ามาจัดการ ด้วยเทคโนโลยี Mesh ที่ทาง Linksys ได้ออกแบบ ให้ทุกอุปกรณ์ มีประสิทธิภาพเหมือนกัน ทำให้คุณสามารถเชื่อมอุปกรณ์เป็นหนึ่งเดียวกัน หรือชื่อ WiFi เพียง 1 SSID เท่านั้นทำให้ง่ายและสะดวก รวมในการเชื่อมต่อและเคลื่อนย้าย หากเราใช้สมาร์ทโฟน ที่เชื่อมต่อกับ WiFi แล้วเคลื่อนไปไปยังตำแหน่งอื่นเมื่อมีสัญญาณอ่อน ระบบก็จะสลับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้อัตโนมัติทันที ทำให้ไม่หลุด หรือเสียจังหวะการเชื่อมต่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง

การติดตั้งใช้งาน Linksys VELOP WiFi Router

สำหรับการเซ็ตค่าติดตั้งเพื่อใช้งาน อุปกรณ์ มีความสะดวกสบายและไม่ยุ่งยาก เพราะ Linksys VELOP รองรับแอพพลิเคชั่น เพื่อเชื่อมอุปกรณ์สำหรับจัดการได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ดังนี้

  • โหลดแอพ Linksys App จาก App Store มาติดตั้ง
  • เชื่อมต่อ อุปกรณ์กับ Modem ของคุณ
  • เปิดแอพ Linksys App เพื่อเชื่อมต่อ WiFi และสร้างรหัสผ่าน
  • วางอุปกรณ์ เพื่อกระจายสัญญาณไปทั่วบริเวณพื้นที่บ้านของคุณ

Download
the Linksys App

Connect to
your modem

Name your WiFi &
create password

Place nodes
throughout your home

คุณสมบัติของ Linksys VELOP Mesh WiFi Router  Tri-Band

Wi-Fi Technology:
Tri-Band AC2200 (867 + 867 + 400 Mbps)‡ with MU-MIMO and 256 QAM

Key Features:
Simultaneous Tri-Band Wi-Fi Mesh System
Seamless Wi-Fi
Easy App Controls
3-Year Warranty and Support
AutoFix & Instant Alerts

Network Standards:
802.11 a/b/g/n/ac

Wi-Fi Bands:
คลื่นใช้งาน Tri-Band (2.4GHz + 5GHz + 5GHz)

Number of Ethernet Ports:
2x WAN/LAN auto-sensing Gigabit Ethernet ports

Antennas:
6x internal antenna และ High powered amplifiers

Processor:
716 MHz Quad-Core

Memory:
4 GB Flash and 512 MB RAM

Security Features:
WPA2 personal

Additional Information:
Bluetooth 4.0/LE for secure and easy App based set-up

Easy Setup:
Simple and secured App based set-up

Required for set-up: (1) Internet connection with Modem. or iOS 9 and higher, Bluetooth preferred.

สำหรับ ผู้ที่ต้องการ ใช้งาน Linksys VELOP  Mesh WiFi  ซึ่งทาง Linksys มีจำหน่ายทั้งแบบแพ็ค 1 ตัว ไปจนถึง แบบแพ็ค 3 ตัว  แบบครบเซ็ต  ทำให้คุณสามารถติดตั้งพร้อมใช้งาน ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่บริเวณบ้านของคุณที่เหมาะสม อีกทั้งยังติดตั้งสะดวกง่ายดายผ่านแอพพลิเคชั่น ตามยุคสมัยที่ต้องการการใช้งานอย่างคล่องตัว ทำให้ Linksys VELOP Mesh WiFi เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ

หากสนใจผลิตภัณฑ์ Linksys VELOP Mesh WiFi สามารถหาซื้อได้ที่ Studio7 ทั่วประเทศ

Tagged under: