Apple เผยโฉม iPad Pro ใหม่ ที่มาพร้อมชิป M1 รองรับ 5G และจอภาพ Liquid Retina XDR ขนาด 12.9 นิ้วที่สวยงามน่าทึ่ง
Apple ประกาศเปิดตัว iPad Pro ที่ทรงพลังและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งเป็นขยายขีดจำกัดของความเป็นไปได้บน iPad การนำชิป M1 ที่ออกแบบโดย Apple มาไว้บน iPad Pro นั้นเป็นการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานแบบก้าวกระโดดและทำให้ iPad Pro เป็นอุปกรณ์ที่เร็วที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน โดย iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วมาพร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR ใหม่ที่มีช่วงไดนามิกที่กว้างถึงขีดสุด iPad Pro จึงถ่ายทอดประสบการณ์ด้านภาพได้อย่างสวยงามน่าทึ่งพร้อมด้วยรายละเอียดที่สมจริงยิ่งกว่าที่เคยสำหรับเวิร์กโฟลว์ระดับ HDR ที่มีรายละเอียดมากที่สุด ขณะที่รุ่นเซลลูลาร์พร้อม 5G จะมอบการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกเมื่อคุณต้องไปไหนมาไหน และ iPad Pro ยังมาพร้อม Thunderbolt ที่ช่วยให้ผู้ใช้ระดับโปรเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้แล้ววันนี้ ยิ่งไปกว่านั้น กล้องหน้าอัลตร้าไวด์แบบใหม่หมดยังมาพร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่จะช่วยทำให้คุณอยู่ตรงกลางเฟรมโดยอัตโนมัติ เพื่อประสบการณ์การใช้งานวิดีโอคอลที่ดึงดูดและน่าสนใจยิ่งขึ้น iPad Pro ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 เมษายน เป็นต้นไปทาง apple.com/th และจะวางจำหน่ายช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม
“ชิป M1 สุดล้ำถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ Mac และเราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำมาใช้กับ iPad Pro” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดด้วยชิป M1, ประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่มีช่วงไดนามิกสูงมากบนจอภาพ Liquid Retina XDR ขนาด 12.9 นิ้ว, ตัวจัดเก็บข้อมูลความเร็วสูง ความจุสูงสุด 2TB, การต่อขยายด้วย Thunderbolt, ระบบเสียง 4 ลำโพง, กล้องระดับโปรพร้อมสแกนเนอร์ LiDAR, การเชื่อมต่อ 5G ที่เร็วสุดแรง, ประสบการณ์วิดีโอคอลที่ยอดเยี่ยมด้วยคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” พร้อมด้วยคุณสมบัติสุดล้ำอีกมากมายของ iPadOS และอิโคซิสเต็มแอประดับโปรอันทรงพลังทั้งหมดในอุปกรณ์ที่ลูกค้าสามารถถือได้ด้วยมือเดียว สรุปก็คือไม่มีอะไรเหมือน iPad Pro อีกแล้ว”
M1 มาอยู่บน iPad Pro เรียบร้อยแล้ว
ชิป M1 สุดล้ำได้ยกระดับประสิทธิภาพระดับแถวหน้าของ iPad Pro ให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก ดีไซน์ CPU แบบ 8-core มาพร้อมคอร์ CPU ที่เร็วที่สุดในโลกในซิลิคอนที่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของ CPU เร็วกว่าชิป A12Z Bionic ถึง 50% ขณะที่ GPU แบบ 8-core อยู่ในระดับชั้นที่ไม่มีใครเทียบเท่า ด้วยประสิทธิภาพ GPU ที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 40% การผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพของ CPU และกราฟิกนี้ทำให้ iPad Pro ที่เป็นผู้นำด้านความเร็วในอุปกรณ์ประเภทเดียวกันอยู่แล้วทิ้งห่างคู่แข่งไปไกลกว่าเดิม เทคโนโลยีอันทรงพลังซึ่งปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Apple Neural Engine แบบ 16 คอร์ เจเนอเรชั่นถัดไป, โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพขั้นสูง (ISP), สถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวมที่มีแบนด์วิดธ์สูงพร้อมหน่วยความจำสูงสุด 16GB, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เร็วขึ้น 2 เท่า ไปจนถึงความจุสูงสุด 2TB ทั้งหมดนี้ทำให้ iPad Pro มีความสามารถมากกว่าที่เคย การประหยัดพลังงานระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมของชิป M1 ช่วยให้ iPad Pro ทำงานได้อย่างน่าทึ่งและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานตลอดวันในดีไซน์ที่บางและเบา1 เนื่องจากชิป M1 ใช้สถาปัตยกรรมพื้นฐานแบบเดียวกับชิปตระกูล A iPadOS จึงได้รับการปรับแต่งมาสำหรับชิป M1 เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สามารถประโยชน์จากเทคโนโลยีอันทรงพลังในชิป M1 ได้อย่างเต็มที่และรับมือกับทุกสิ่งได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่การนำทางที่เรียบง่ายไปจนถึงเวิร์กโฟลว์การทำงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลมากที่สุด
จอภาพ Liquid Retina XDR ขนาด 12.9 นิ้วทำให้ iPad Pro มีช่วงไดนามิกที่สูงมาก
จอภาพ Liquid Retina XDR ใหม่นำประสิทธิภาพการแสดงผลอันน่าทึ่งของ Pro Display XDR มาไว้บน iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว จอภาพ Liquid Retina XDR ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาพร้อมกับดีไซน์ mini-LED ใหม่สุดล้ำที่ใช้ LED กว่า 10,000 ดวงทั่วทั้งด้านหลังของจอภาพเพื่อให้มีความสว่างแบบเต็มหน้าจอสูงถึง 1,000 นิต, ความสว่างสูงสุด 1,600 นิต และอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1 อันยอดเยี่ยมที่จะช่วยยกระดับเวิร์กโฟลว์การสร้างสรรค์ของคุณ และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือประสบการณ์ด้านภาพอันน่าทึ่งซึ่งถ่ายทอดสิ่งที่คุณควรจะมองเห็นตรงหน้าจริงๆ ได้อย่างแม่นยำด้วยการแสดงไฮไลท์ที่สว่างที่สุดและรายละเอียดที่ครบถ้วนที่สุดแม้กระทั่งในรูปภาพที่มืดที่สุด วันนี้ มือโปรด้านครีเอทีฟรวมถึงช่างภาพ ช่างถ่ายวิดีโอ และผู้ผลิตภาพยนตร์สามารถดูและแก้ไขคอนเทนต์ระดับ HDR ที่สมจริงบนจอภาพขนาดใหญ่ซึ่งสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ได้แล้ว จอภาพ Liquid Retina XDR ใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ ที่สามารถพบได้ใน iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว ไม่ว่าจะเป็น ProMotion, การแสดงผลแบบ True Tone และการรองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 โดยทั้งหมดนี้จะมอบประสบการณ์การรับชมระดับโรงภาพยนตร์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในแบบที่ไม่มีใครเทียบเท่าสำหรับคอนเทนต์ระดับ HDR และ Dolby Vision
รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย 5G
เมื่อมี 5G บน iPad Pro ผู้ใช้ก็สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นในระหว่างเดินทางด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมขึ้นและความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดที่เร็วขึ้นอีกระดับ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสตรีมวิดีโอคุณภาพสูง การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ หรือ FaceTime แบบความละเอียดสูง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสร้างสรรค์ผลงานและทำงานแบบมีประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดด้วยการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับฮอตสปอต Wi-Fi สาธารณะบ่อยๆ อีกต่อไป iPad Pro รองรับย่านความถี่ 5G มากที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน จึงสามารถใช้งาน 5G ได้ครอบคลุมทั่วโลกมากที่สุด โดยรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกานั้นรองรับความยาวคลื่นระดับมิลลิเมตร ซึ่งเป็น 5G ในความถี่ที่สูงกว่า ทำให้ iPad Pro สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 4Gbps iPad Pro ยังรองรับ eSIM ได้ด้วย จึงทำให้ค้นหาเครือข่ายได้ง่ายและสามารถสมัครใช้บริการ 5G ได้ทันที
Thunderbolts มาอยู่บน iPad Pro แล้ว
การรองรับ Thunderbolt และ USB 4 ทำให้พอร์ต USB-C บน iPad Pro เป็นพอร์ตที่เร็วและอเนกประสงค์ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPad โดยมีแบนด์วิดท์สำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสายมากกว่า iPad Pro รุ่นก่อนถึง 4 เท่า พร้อมความเร็วสูงสุด 40Gbps Thunderbolt รองรับ Ethernet 10Gbps และเป็นการเปิดประตูสู่ระบบนิเวศขนาดใหญ่ของอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพสูงอย่างตัวจัดเก็บข้อมูลภายนอกที่เร็วขึ้นหรือจอภาพภายนอกที่มีความละเอียดสูงขึ้นซึ่งรวมถึง Pro Display XDR แบบเต็มความละเอียด 6K และทั้งหมดนี้เชื่อมต่อได้โดยใช้สายและแท่นวางประสิทธิภาพสูง ด้วยการรองรับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่มากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ iPad Pro จึงรับมือกับเวิร์กโฟลว์งานสร้างสรรค์ได้ราบรื่นกว่าที่เคยแล้ว
คุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” มอบประสบการณ์การใช้งานวิดีโอคอลในรูปแบบใหม่ที่ดึงดูดและน่าสนใจยิ่งขึ้น
ระบบกล้อง TrueDepth บน iPad Pro มาพร้อมกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP แบบใหม่หมดซึ่งออกแบบมาสำหรับ iPad โดยเฉพาะ เพื่อรองรับคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับการใช้งานวิดีโอคอล คุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ใช้ประโยชน์จากกล้องหน้าใหม่ที่มีมุมมองภาพกว้างกว่าเดิมมากและความสามารถในการเรียนรู้ของระบบของชิป M1 เพื่อจดจำและจัดให้ผู้ใช้อยู่ตรงกลางเฟรม โดยกล้องจะแพนตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ตรงกลางเฟรมเสมอ และถ้ามีคนอื่นมาเข้าร่วมเฟรมด้วย กล้องก็สามารถตรวจจับได้และจะซูมออกอย่างลื่นไหลเพื่อจัดให้ทุกคนอยู่ในมุมมองเดียวกันและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา ดังนั้น ไม่ว่าจะแชร์ไวท์บอร์ดกับเพื่อนร่วมงานหรือนัดรวมตัวกับญาติๆ ทางออนไลน์ ผู้ใช้ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานวิดีโอคอลที่ดึงดูดและน่าสนใจยิ่งกว่าที่เคย
คุณสมบัติใหม่เพิ่มเติมบน iPad Pro
- ISP และ Neural Engine ในชิป M1 ช่วยปลดล็อคความสามารถใหม่ๆ ให้กับระบบกล้องระดับโปรซึ่งมาพร้อมการรองรับ HDR อัจฉริยะ 3 บน iPad Pro เป็นครั้งแรก และในสภาวะแสงน้อย ISP และสแกนเนอร์ LiDAR Scanner จะโฟกัสภาพและวิดีโอได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเพื่อเก็บรายละเอียดได้อย่างน่าทึ่งโดยแทบไม่ต้องใช้แสง
- Magic Keyboard ที่มาพร้อมประสบการณ์การพิมพ์แบบสบายๆ ด้วยปุ่มแบบแบ็คไลท์ แทร็คแพดในตัว และดีไซน์แบบยกลอย วันนี้มาในสีขาวใหม่ที่สวยงาม
- iPadOS 14.5 ซึ่งจะเปิดให้ลูกค้า iPad ได้ใช้งานในสัปดาห์หน้ามาพร้อมคุณสมบัติเพิ่มเติม รวมถึงการรองรับภาษาใหม่ๆ สำหรับคุณสมบัติ “การขีดเขียนข้อความ” และ “การเลือกอัจฉริยะ” บน Apple Pencil, อิโมจิใหม่ การรองรับตัวควบคุมเกมรุ่นล่าสุด และความสามารถในการแชร์เนื้อเพลงและดูเพลงยอดนิยมของเมืองต่างๆ ทั่วโลกด้วย Apple Music
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศให้เป็นศูนย์ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ตั้งแต่การรวบรวมวัสดุ การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ จนถึงการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ
วันนี้ iPad Pro มาพร้อมตัวเครื่องที่ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% และใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กของลำโพงและตัวเครื่อง iPad Pro ยังคงปราศจากสารที่เป็นอันตรายซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ในด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และการประหยัดพลังงาน รวมทั้งใช้ใยไม้ในบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลหรือมาจากป่าที่มีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบเช่นเคย
ราคาและการวางจำหน่าย
iPad Pro ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อโดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 เมษายน เป็นต้นไปทางapple.com/th และจะวางจำหน่ายในแอป Apple Store ใน 31 ประเทศและภูมิภาครวมถึงสหรัฐอเมริกา iPad Pro จะวางจำหน่ายใน Apple Store ช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม
iPad Pro รุ่น 11 นิ้วและ 12.9 นิ้วใหม่จะวางจำหน่ายในสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ iPad Pro มีวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB ซึ่งช่วยให้ลูกค้าระดับโปรมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับแอปและคอนเทนต์
iPad Pro รุ่น 11 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 32,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ 37,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 42,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ที่ apple.com/th
Cr. Apple Newsroom
ช้อปสินค้า Apple ผ่านช่องทางออนไลน์