macOS Big Sur พร้อมให้อัพเดทแล้ว
อัพเดทครั้งนี้นำดีไซน์ใหม่และการปรับปรุงมาสู่แอพต่างๆ ทั้ง Safari, ข้อความ แผนที่ และความเป็นส่วนตัว รวมทั้งได้รับการออกแบบมาเพื่อชิพ M1 อันทรงพลังของ Apple อีกด้วย
วันนี้ผู้ใช้ Mac สามารถอัพเดทซอฟต์แวร์เป็น macOS Big Sur ระบบปฏิบัติการบนเดสก์ท็อปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกในเวอร์ชั่นล่าสุดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย Big Sur มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่สวยงามและอัดแน่นไปด้วยการปรับปรุงใหม่ ๆ สำหรับแอพหลัก ๆ อย่างเช่น Safari, ข้อความ และแผนที่ รวมถึงคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวใหม่ อีกทั้ง Big Sur ยังได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมที่เจาะลึกลงไปจนถึงแกนหลัก เพื่อดึงขุมพลังทั้งหมดของชิพ M1 มาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ได้ประสบการณ์การใช้งาน macOS ที่ดีขึ้นกว่าที่เคยสำหรับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว, MacBook Air และ Mac mini การผสานรวม Big Sur และ M1 เข้าด้วยกันยกระดับ Mac ไปอีกขั้นอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้ได้ความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานอันน่าทึ่ง รวมทั้งมีแอพต่าง ๆ มากขึ้นกว่าที่เคย ขณะเดียวกันก็ยังคงเก็บรักษาสิ่งต่าง ๆ ของ macOS ที่ผู้ใช้ชื่นชอบไว้อย่างครบถ้วน
ดีไซน์ใหม่: ตรงจุดและคุ้นเคย
Big Sur มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง จึงใช้งานส่วนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และยังควบคุมได้มากขึ้นด้วยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ตั้งแต่ส่วนโค้งของมุมหน้าต่างจนถึงชุดสีและวัสดุ การออกแบบที่พิถีพิถันจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนตั้งแต่ผู้ที่ได้เป็นเจ้าของ Mac เครื่องแรกไปจนถึงผู้ใช้ระดับโปรที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ไอคอนใน Dock ยังคงลักษณะเด่นเฉพาะตัวของ Mac ไว้เช่นเดิม อีกทั้งยังมีความสอดคล้องต่อเนื่องยิ่งขึ้นทั่วทั้งระบบนิเวศของ Apple จึงมีรูปลักษณ์และให้ความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ดีไซน์ใหม่สำหรับแอพต่างๆ ยังทำให้ผู้ใช้มีสมาธิจดจ่อกับคอนเทนต์และโต้ตอบกับแอพได้ง่ายขึ้น ปุ่มและการควบคุมจะปรากฏขึ้นเมื่อจำเป็นและจะถอยออกไปเมื่อไม่ใช้งาน ซึ่งเป็นการลดความซับซ้อนของภาพที่แสดงให้เห็น และนำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดมาไว้ด้านหน้า
ศูนย์ควบคุมโฉมใหม่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการควบคุมคุณสมบัติ “ห้ามรบกวน”, จอภาพ คีย์บอร์ด ความสว่าง และอีกมากมายจากแถบเมนูได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้จะเห็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากขึ้นทันทีที่เหลือบมองในศูนย์การแจ้งเตือนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ รวมถึงการแจ้งเตือนแบบอินเทอร์แอ็คทีฟและวิดเจ็ตที่ออกแบบขึ้นใหม่
Safari: ที่เร็วขึ้น ตรงใจขึ้น และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
Safari ได้รับการอัพเดทครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2003 ซึ่งทำให้เบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลกเร็วยิ่งขึ้นไปอีก พร้อมทั้งรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ไว้ได้ เอนจิ้น JavaScript ที่รวดเร็วช่วยให้ Safari มีประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่าเบราว์เซอร์อื่น ๆ ทั้งบน Mac และ PC และ Safari ยังโหลดเว็บไซต์ที่เข้าบ่อยได้เร็วกว่า Chrome โดยเฉลี่ยถึง 50% และ Safari ที่อยู่บน Mac ที่มาพร้อม M1 ก็ยิ่งเร็วขึ้นได้อีกสูงสุดถึง 1.5 เท่าเมื่อเรียกใช้งาน JavaScript และตอบสนองได้ดีกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า การสตรีมบนแพลตฟอร์มยอดนิยมก็มีสีสันสดใสและชัดเจนยิ่งขึ้นโดยเพิ่มความคมชัดระดับ 4K HDR ให้กับทั้ง YouTube และ Netflix แถบต่าง ๆ ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทำให้การไปยังส่วนต่าง ๆ ของ Safari รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยการแสดงแถบเพิ่มเติมบนหน้าจอ การแสดงตัวอย่างหน้าเมื่อเลื่อนไปอยู่เหนือแถบนั้น ๆ และแสดงไอคอนของเว็บไซต์ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้ระบุได้โดยง่าย
Safari มอบประสบการณ์การใช้งานที่ตรงใจมากขึ้นไปอีกขั้นในขณะที่ท่องเว็บ รวมทั้งหน้าเริ่มต้นที่ปรับแต่งได้แบบใหม่ที่ผู้ใช้สามารถเพิ่มภาพพื้นหลังส่วนตัว รายการอ่าน แถบ iCloud และอีกมากมาย Safari ยังมาพร้อมการแปลภาษาที่สามารถตรวจหาและแปลเว็บเพจทั้งหน้าจากภาษาต่าง ๆ ถึง 7 ภาษา อีกทั้งยังค้นหาส่วนขยายใหม่สำหรับ Safari ได้อย่างง่ายดายเพื่อดาวน์โหลดผ่านทาง Mac App Store ที่มาพร้อมหมวดหมู่ต่าง ๆ ที่มีทั้งผลงานเด่น ๆ ที่คัดสรรโดยทีมบรรณาธิการและอันดับยอดนิยม
แอพข้อความ: ประสบการณ์ที่น่าสนใจและถ่ายทอดอารมณ์ได้มากขึ้น
แอพข้อความบน Mac มอบเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการกลุ่มการสนทนาที่คุยบ่อย รวมทั้งวิธีการสนุก ๆ และน่าสนใจในการถ่ายทอดความรู้สึกของตนเอง ผู้ใช้สามารถปักหมุดการสนทนาที่คุยบ่อยไว้ด้านบนสุดของรายการข้อความเพื่อให้เข้าถึงได้รวดเร็ว ในขณะที่การค้นหาก็ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่หมดเพื่อให้ผู้ใช้หาลิงก์ รูปภาพ และคำค้นหาที่ตรงกันได้ทันใจ แอพข้อความสำหรับ Mac ยังทำงานทั้งใน iPhone, iPad และ Apple Watch ได้อย่างราบรื่น การสนทนาจึงซิงค์ตรงกันเสมอ
เอฟเฟ็กต์สนุก ๆ ช่วยให้ผู้ใช้ Mac เพิ่มความเป็นตัวเองให้กับข้อความ อย่างลูกโป่ง การโปรยกระดาษ และอีกมากมาย ยิ่งกว่านั้นผู้ใช้ยังสามารถสร้างและปรับแต่ง Memoji บน Mac ได้เลย แล้วบ่งบอกความเป็นตัวเองด้วยสติ๊กเกอร์ Memoji ที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติที่เข้ากับอารมณ์และบุคลิกเฉพาะตัว และยังมีเครื่องมือเลือกรูปภาพแบบใหม่รวมถึง #images ที่ช่วยให้ผู้ใช้แชร์รูปภาพ, GIF และวิดีโอได้ง่าย ๆ
การรับส่งข้อความแบบกลุ่มมีคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การโต้ตอบระหว่างครอบครัว เพื่อน ๆ และเพื่อนร่วมงานง่ายยิ่งขึ้น การตอบกลับแบบอ้างอิงข้อความเดิมที่ให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความในเธรดได้โดยตรง ผู้ใช้ยังสามารถส่งข้อความถึงใครสักคนในกลุ่มสนทนาได้ด้วย เพียงแค่พิมพ์ชื่อของคนนั้น และเลือกรับการแจ้งเตือนเฉพาะเมื่อมีการกล่าวถึงชื่อของคนนั้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดรูปภาพหรืออิโมจิให้กับการสนทนาเพื่อปรับแต่งข้อความกลุ่มให้เป็นแบบเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น
แอพแผนที่: ค้นพบการผจญภัยใหม่ ๆ
แอพแผนที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดและเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ อันน่าตื่นเต้นสำหรับการสำรวจโลกบน Mac ผู้ใช้จะได้ค้นพบสถานที่และกิจกรรมน่าสนใจด้วยคุณสมบัติ “สถานที่น่าสนใจ” จากแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจ รวมทั้งสร้างคู่มือนำเที่ยวของตนเองเพื่อรวบรวมร้านอาหารโปรด สวนสาธารณะ และไอเดียสำหรับการพักผ่อนช่วงวันหยุด แล้วแชร์กับเพื่อน ๆ และครอบครัวได้ ชมจุดหมายปลายทางในมุมมองแบบ 360 องศาได้ด้วยคุณสมบัติ “มองไปรอบ ๆ” และแผนที่ภายในอาคารโดยละเอียดใหม่จะช่วยนำทางในสนามบินและศูนย์การค้าใหญ่ๆ และยังเป็นครั้งแรกที่คุณจะสามารถวางแผนเส้นทางขี่จักรยานและรถยนต์ไฟฟ้าบน Mac แล้วส่งไปยัง iPhone เพื่อใช้ขณะเดินทางได้โดยตรงอีกด้วย
ความเป็นส่วนตัว: ความโปร่งใสและการควบคุมโดยผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น
ความเป็นส่วนตัวคือหัวใจสำคัญในประสบการณ์การใช้งาน Mac และ Big Sur ขยายขอบเขตความสามารถของคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มความโปร่งใสไปอีกระดับและช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลของตนเองได้มากขึ้น ภายในปีนี้ Mac App Store จะมาพร้อมส่วนใหม่บนหน้าผลิตภัณฑ์แต่ละหน้าที่จะแสดงข้อมูลสรุปที่รายงานโดยนักพัฒนาเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของแอพนั้นๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลากโภชนาการที่สะดวกและอ่านง่าย โดยที่ข้อมูลนี้จะแสดงประเภทของข้อมูลที่แอพนั้นอาจเก็บรวบรวม เช่น ข้อมูลการติดต่อ หรือตำแหน่งที่ตั้ง และยังระบุด้วยว่ามีการแชร์ข้อมูลนั้นให้บริษัทอื่นติดตามได้หรือไม่
นักพัฒนาแอพ: นำแอพต่างๆ มารวมไว้ใน Mac มากกว่าที่เคย
ด้วย Big Sur ชุมชนนักพัฒนาของ Apple ที่มีสมาชิกกว่า 28 ล้านจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือที่พวกเขาต้องการเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานอันน่าทึ่งสำหรับ iOS, iPadOS, macOS, watchOS และ tvOS ในตอนนี้การพัฒนาแอพนั้นง่ายกว่าที่เคย เพราะว่า macOS มาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอันเหนือชั้นที่จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านสู่ซิลิคอน Apple ง่ายยิ่งขึ้น Xcode 12 ช่วยให้นักพัฒนาอัพเดทแอพ Mac ของตนเองที่มีอยู่แล้วเป็นไบนารีแอพพลิเคชั่น Universal 2 ได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มการรองรับทั้ง Mac ที่ใช้ชิพ M1 และที่ใช้ Intel ภายในแอพเดียวโดยตรง แอพแบบ Universal เป็นแอพ Mac ที่รวดเร็วและทรงพลังที่สุด ซึ่งสามารถเข้าถึงขุมพลังของชิพ M1 ได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้ง Neural Engine ที่มารวมอยู่ใน Mac แล้วในตอนนี้ นักพัฒนาจึงมีโอกาสใหม่ๆ ที่จะได้สัมผัสแอพการเรียนรู้ของระบบอันน่าทึ่ง
Rosetta 2 คือเทคโนโลยีใหม่ใน Big Sur ที่ทำให้แอพของ Intel ที่มีอยู่แล้วที่ยังไม่ได้อัพเกรดเป็นแบบ Universal สามารถทำงานบน Mac ที่มาพร้อมซิลิคอน Apple ได้อย่างราบรื่น ด้วยขุมพลังของ Metal และชิพ M1 นักพัฒนาจะเห็นว่าแอพที่ต้องใช้พลังด้านกราฟิกขั้นสูงสุดสามารถทำงานภายใต้ Rosetta 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าที่เคยทำได้บน Mac รุ่นเดิม ๆ ที่มาพร้อมกราฟิกในตัว นักพัฒนายังเลือกที่จะทำให้ผู้ใช้ Mac สามารถใช้แอพ iPhone และ iPad ได้โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ผู้ใช้จึงเข้าถึงแอพต่าง ๆ ได้มากขึ้นกว่าที่เคย นอกจากนี้ พื้นฐานของ Big Sur ยังได้รับการปรับแต่งมาให้ปลดล็อคขุมพลังของชิพ M1 รวมถึงเทคโนโลยีสำหรับนักพัฒนาต่าง ๆ ตั้งแต่ Metal สำหรับกราฟิก ไปจนถึง Core ML สำหรับการเรียนรู้ของระบบ
เมื่อ Mac Catalyst เปิดตัวพร้อมกับ macOS Catalina เมื่อปีก่อน นักพัฒนาสามารถนำแอพ iPad มาใช้งานบน Mac ได้โดยง่าย ในตอนนี้ แอพ Mac Catalyst รับการออกแบบใหม่ของ Big Sur มาใช้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึง API ใหม่ๆ อันทรงพลังเพื่อการควบคุมหน้าตาและลักษณะการทำงานของแอพได้มากขึ้นด้วย ยังมีการอัพเกรด SwiftUI ครั้งใหญ่เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเขียนทั้งแอพและวิดเจ็ตด้วยโค้ดที่นำไปใช้กับแพลตฟอร์มทั้งหมดของ Apple ได้ และยังสามารถเพิ่มคุณสมบัติเฉพาะสำหรับ Mac ได้ง่าย ๆ อีกด้วย