iPadOS 15 พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้
iPadOS 15 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่จะทำให้ iPad อเนกประสงค์ยิ่งขึ้น ตั้งแต่ประสบการณ์การทำงานแบบมัลติทาสก์ที่ง่ายขึ้น และการจัดวางวิดเจ็ตแบบใหม่ในหน้าจอโฮม จนถึงคลังแอป และอีกหลายวิธีในการจดสิ่งที่คิดด้วย “โน้ตด่วน” แถมยังมีการอัปเดต FaceTime เพื่อวิดีโอคอลที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วย iPadOS 15 พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี
ทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นด้วยการทำงานแบบมัลติทาสก์และปุ่มลัดคีย์บอร์ด
iPadOS 15 ช่วยให้การทำงานพร้อมกันหลายๆ แอปง่ายยิ่งกว่าที่เคย เมนูการทำงานแบบมัลติทาสก์ใหม่จะแสดงอยู่ด้านบนสุดของแอป ทำให้แตะเพื่อเปลี่ยนเป็น Split View หรือ Slide Over ได้ง่าย และวันนี้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหน้าจอโฮมได้อย่างรวดเร็วขณะอยู่ในมุมมอง Split View และยังสามารถทำงานแบบมัลติทาสก์กับแอปที่มีหลายหน้าต่างอย่าง Safari และ Pages ได้ด้วยโดยใช้ชั้นวางแอป
เมนูการทำงานแบบมัลติทาสก์ใหม่จะแสดงอยู่ด้านบนสุดของแอป ทำให้แตะเพื่อเปลี่ยนเป็น Split View หรือ Slide Over ได้ง่าย
ปุ่มลัดคีย์บอร์ดแบบใหม่หมดและแถบเมนูที่ออกแบบใหม่ช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการตั้งค่าและสลับไปมาระหว่าง Split View และ Slide Over ได้อย่างรวดเร็วด้วยคีย์บอร์ดภายนอก
วันนี้ iPadOS 15 ให้ผู้ใช้สลับไปมาระหว่าง Split View และ Slide Over ด้วยคีย์บอร์ดภายนอกได้
จัดระเบียบและปรับแต่ง iPad ในแบบของตัวเองด้วยวิดเจ็ตและคลังแอป
ในขณะที่คลังแอปก็มาอยู่บน iPad แล้วเพื่อช่วยจัดระเบียบแอปทั้งหมดให้อยู่ในหมวดหมู่ที่เข้าใจง่ายโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เกม และ “เพิ่มล่าสุด” ทั้งยังเข้าถึงได้สะดวกรวดเร็วจาก Dock
คลังแอปจะจัดระเบียบแอปทั้งหมดให้อยู่ในหมวดหมู่ที่เข้าใจง่ายโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เกม และ “เพิ่มล่าสุด” ทั้งยังเข้าถึงได้สะดวกรวดเร็วจาก Dock
จดบันทึกสิ่งที่คิดด้วยคุณสมบัติ “โน้ตด่วน” และจัดระเบียบด้วยแท็ก
วันนี้แอปโน้ตใช้งานได้กับทั้งระบบแล้วด้วยคุณสมบัติ “โน้ตด่วน” ซึ่งช่วยให้จดโน้ตได้อย่างรวดเร็วจากที่ไหนก็ได้ใน iPadOS ไม่ว่าจะท่องเว็บอยู่ใน Safari หรือค้นหาร้านอาหารใน Yelp ผู้ใช้ก็สามารถเรียก “โน้ตด่วน” ขึ้นมาเพื่อจดสิ่งที่คิดหรือบันทึกลิงก์ แล้วกลับมายังสิ่งที่กำลังดูอยู่ก่อนหน้านี้ได้ง่ายๆ
คุณสมบัติ “โน้ตด่วน” ใน iPadOS15 ช่วยให้จดโน้ตได้อย่างรวดเร็วจากทุกที่ใน iPadOS
แอปโน้ตยังมีวิธีใหม่ๆ สำหรับการจัดระเบียบและทำงานร่วมกันด้วย เริ่มจากแท็กที่ช่วยให้จัดหมวดหมู่ของโน้ตได้ง่าย และยังหาโน้ตเจอได้อย่างรวดเร็วด้วยเบราว์เซอร์แท็กแบบใหม่หมด รวมถึงโฟลเดอร์อัจฉริยะที่อิงตามแท็ก นอกจากนี้ขณะทำงานในโน้ตที่แชร์อยู่ ยังสามารถใช้การพูดถึงเพื่อแจ้งเตือนสมาชิกอีกคนพร้อมลิงก์ลับมาที่โน้ตนั้น และยังมีมุมมอง “กิจกรรม” ใหม่ที่จะแสดงว่ามีอะไรอัปเดตล่าสุดในโน้ตนั้นบ้าง
คุณสมบัติใหม่อย่าง “เบราว์เซอร์แท็ก” และ “โฟลเดอร์อัจฉริยะ” ที่อิงตามแท็กช่วยให้การจัดระเบียบและค้นหาโน้ตกลายเป็นเรื่องง่าย
ยกระดับการโทร FaceTime ให้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
ส่วนโหมดภาพถ่ายบุคคลใน FaceTime จะเบลอฉากหลังและโฟกัสที่ผู้ใช้ ในขณะที่ FaceTime แบบกลุ่มก็มีตัวเลือกสำหรับแสดงผู้เข้าร่วมในช่องสี่เหลี่ยมขนาดเดียวกันเรียงเป็นตารางแล้ว ซึ่งช่วยให้การสนทนาเป็นกลุ่มใหญ่ทำได้ง่ายขึ้น
การคุย FaceTime แบบกลุ่มกับเพื่อนๆ และครอบครัวใน iPadOS 15 จะมีความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
เครื่องมือช่วยโฟกัสความสนใจ พร้อมด้วยการแจ้งเตือนโฉมใหม่
iPadOS 15 มาพร้อมคุณสมบัติ “โฟกัส” ซึ่งเป็นวิธีใหม่ที่จะช่วยลดการรบกวนโดยการกรองการแจ้งเตือนตามสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการโฟกัสในขณะนั้น เช่น ผู้ใช้สามารถตั้งโฟกัส “เวลางาน” ในช่วงเวลางานเพื่อรับการแจ้งเตือนเฉพาะที่มาจากเพื่อนร่วมงานและแอปที่ใช้สำหรับการทำงานเท่านั้น แล้วตั้งโฟกัส “เวลาส่วนบุคคล” ในช่วงที่อยากพักและใช้เวลากับเพื่อนๆ หรือครอบครัว และยังสามารถลดสิ่งรบกวนสมาธิโดยการสร้างหน้าจอโฮมแบบเฉพาะที่มีเพียงแอปและวิดเจ็ตที่เกี่ยวข้องกับโฟกัสนั้นได้ นอกจากนี้ในขณะใช้งานโฟกัสก็จะมีการแสดงสถานะให้ผู้ติดต่อเห็นโดยอัตโนมัติในแอปข้อความและแอปสื่อสารของบริษัทอื่นที่รองรับอย่าง Slack เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าไม่ควรรบกวน
โฟกัสคือเครื่องมือใหม่อันทรงพลังใน iPadOS 15 ที่จะช่วยลดการรบกวน
การแจ้งเตือนได้รับการออกแบบใหม่โดยการเพิ่มรูปของผู้ติดต่อในกรณีที่มาจากบุคคลและมีไอคอนที่ใหญ่ขึ้นในกรณีที่มาจากแอป ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้ระบุได้ง่ายขึ้นว่าเป็นการแจ้งเตือนอะไร และวันนี้ผู้ใช้สามารถเลือกรับสรุปการแจ้งเตือน ซึ่งจะรวมการแจ้งเตือนมาเป็นคอลเลกชั่นที่มีประโยชน์และส่งตรงถึงผู้ใช้ทุกวันในเวลาที่กำหนดไว้ อย่างในช่วงเช้าและช่วงเย็น เพื่อให้ผู้ใช้กลับมาติดตามความเคลื่อนไหวของวันนั้นในเวลาที่สะดวกได้
สรุปการแจ้งเตือน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติใหม่ใน iPadOS 15 จะรวมการแจ้งเตือนมาเป็นคอลเลกชั่นที่มีประโยชน์และส่งตรงถึงผู้ใช้ทุกวัน
ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์คือขุมพลังเบื้องหลังคุณสมบัติใหม่ๆ ด้านรูปภาพและการค้นหาขั้นสูงด้วย Spotlight
คุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ” หรือ Live Text ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่ออ่านข้อความในรูปภาพทั่วทั้งระบบ รวมถึงบนเว็บ และช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ อย่างการคัดลอกและวาง ค้นข้อมูล หรือแปลได้ โดยที่ผู้ใช้สามารถแตะภาพหมายเลขโทรศัพท์เพื่อโทรติดต่อ หรือแตะภาพของที่อยู่เว็บเพื่อเปิดใน Safari ได้ และยังมีคุณสมบัติ “ค้นดูจากภาพ” ที่ให้ผู้ใช้ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานศิลปะยอดนิยม สถานที่สำคัญ หนังสือ พืชและดอกไม้ และพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงได้
คุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ” อ่านข้อความในรูปภาพและให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้
ตอนนี้ Spotlight สามารถค้นหาได้ทั้งแอปรูปภาพและรูปภาพบนเว็บ และยังมีหน้าผลลัพธ์แบบใหม่หมดที่จะแสดงข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับผู้ติดต่อที่กำลังค้นหา อย่างบทสนทนาล่าสุด รูปภาพที่แชร์กัน และตำแหน่ง หากแชร์ไว้ผ่านแอปค้นหาของฉัน Spotlight สามารถหาข้อความและลายมือในรูปภาพได้เช่นกันโดยใช้คุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ”
Spotlight ใน iPadOS 15 สามารถหาค้นหาได้ทั้งแอปรูปภาพและรูปภาพบนเว็บแล้ว
แอปแปลภาษามีให้ใช้บน iPad แล้วพร้อมวิธีใหม่ๆ ในการสื่อสาร
แอปแปลภาษามาอยู่บน iPad พร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทำให้การสนทนาง่ายและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น นั่นคือขณะใช้แอปแปลภาษา คุณสมบัติ “แปลภาษาโดยอัตโนมัติ” จะตรวจจับว่าใครเป็นผู้พูดและพูดภาษาใด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องแตะปุ่มไมโครโฟน และหากต้องการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น มุมมองแบบเห็นหน้าก็ช่วยคู่สนทนาสามารถนั่งตรงข้ามกันแล้ววาง iPad ไว้ตรงกลางพร้อมดูคำแปลของบทสนทนาจากฝั่งของตนเองได้ ยิ่งกว่านั้นยังสามารถแปลข้อความและลายมือได้จากทุกที่บน iPad เพียงแค่เลือกข้อความนั้นแล้วแตะ “แปลภาษา” ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับคุณสมบัติ “ข้อความในรูปภาพ” ก็สามารถแปลข้อความในรูปภาพได้ด้วย
ตอนนี้ผู้ใช้สามารถแปลข้อความได้จากทุกที่บน iPad เพียงเลือกข้อความแล้วแตะ “แปลภาษา”
ควบคุมความเป็นส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น
คุณสมบัติเพิ่มเติมของ iPadOS 15
- Safari มาพร้อมวิธีใหม่ๆ ที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งประสบการณ์การท่องเว็บในแบบของตัวเองได้ อย่างกลุ่มแถบเว็บไซต์หรือ Tab Groups ที่ให้ผู้ใช้จัดระเบียบแถบต่างๆ แล้วกลับมาดูเมื่อไหร่ก็ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นบน iPhone, iPad หรือ Mac รวมถึงคุณสมบัติใหม่ๆ อย่างหน้าเริ่มต้นที่ปรับแต่งได้ และส่วนขยายเว็บบน iPadOS ซึ่งล้วนช่วยให้ Safari ทรงพลังและตอบโจทย์ของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
- “แชร์กับคุณ” คือวิธีใหม่สำหรับสนุกเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ที่เพื่อนๆ และครอบครัวส่งมาทางแอปข้อความ โดยที่คอนเทนต์อย่างรูปภาพ บทความ และเพลงที่แชร์ผ่านแอปข้อความจะปรากฏในส่วน “แชร์กับคุณ” ใหม่ในแอปรูปภาพ, Safari, Apple News, เพลง, Apple Podcasts และ Apple TV โดยอัตโนมัติ
- แอปรูปภาพได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดในส่วน “ความทรงจำ” ที่มาพร้อมลุคสดใหม่ อินเทอร์เฟซแบบโต้ตอบได้ และการผสานการทำงานเข้ากับ Apple Music ซึ่งใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อปรับแต่งการแนะนำเพลงที่จะเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับความทรงจำ
- iCloud+ มีคุณสมบัติระดับพรีเมียมใหม่ๆ อย่าง “ซ่อนอีเมลของฉัน” และการรองรับ “วิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย” ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นบริการใหม่สุดล้ำเพื่อความเป็นส่วนตัวทางอินเทอร์เน็ตโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยที่สมาชิก iCloud ปัจจุบันจะได้รับการอัปเกรดเป็น iCloud+ โดยอัตโนมัติ และผู้ใช้สามารถแชร์แผนบริการ iCloud+ ทุกแบบกับสมาชิกกลุ่มการแชร์กันในครอบครัวได้ เพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติใหม่ๆ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และประสบการณ์การใช้งานอันเหนือชั้นที่มาพร้อมกับบริการนี้
- แอปแผนที่มาพร้อมวิธีใหม่ๆ ในการนำทางและสำรวจโลกด้วยรายละเอียดในเมืองที่ดีกว่าเดิมสำหรับเขตต่างๆ ย่านการค้า ระดับความสูง และอาคาร รวมถึงสีและป้ายถนนใหม่ สถานที่สำคัญที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และโหมดเวลากลางคืนใหม่ที่มีแสงจันทร์ส่องสว่าง
- คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงได้รับการออกแบบมาให้ทำงานเหมือนกับที่ผู้ใช้ต้องการ เริ่มจากตัวอ่านหน้าจอ VoiceOver ที่วันนี้ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาวัตถุในรูปภาพ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้รู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้คน ข้อความ ข้อมูลในตาราง และวัตถุอื่นๆ ในรูปภาพ อีกทั้งยังรองรับฮาร์ดแวร์ติดตามดวงตาของบริษัทอื่น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุม iPad ได้โดยใช้เพียงดวงตา และยังมีการทำงานด้วยเสียงที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งคุณสมบัติ “การควบคุมสวิตช์” ให้ทำงานกับเสียงจากปาก รวมถึงปรับการแสดงผลและขนาดข้อความแยกสำหรับแต่ละแอปได้
กลุ่มแถบเว็บไซต์หรือ Tab Groups ใน Safari ให้ผู้ใช้จัดระเบียบแถบต่างๆ แล้วกลับมาดูเมื่อไหร่ก็ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นบน iPhone, iPad หรือ Mac
Credit : Apple Newsroom