Final Cut Pro และ Logic Pro ได้รับการอัปเดตด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทรงพลัง
Final Cut Pro และ Logic Pro ได้รับการอัปเดตด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทรงพลัง และประสิทธิภาพการทำงานในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนบน MacBook Pro แบบใหม่หมดที่มาพร้อมชิป M1 Pro และ M1 Max
Final Cut Pro มอบความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในประสิทธิภาพวิดีโอ 8K และ Logic Pro มาพร้อมชุดเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างสรรค์เพลงในระบบเสียงตามตำแหน่ง
การอัปเดตใหม่สำหรับ Final Cut Pro และ Logic Pro มาพร้อมเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งนักสร้างสรรค์วิดีโอและเพลงมืออาชีพ
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย – Apple ได้ทำการอัปเดต Final Cut Pro และ Logic Pro ที่มาพร้อมคุณสมบัติอันทรงพลังสำหรับผู้ที่ทำงานสร้างสรรค์แบบมืออาชีพ และการปรับแต่งที่จะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากทุกขุมพลังและประสิทธิภาพของชิป M1 Pro และ M1 Max ใน MacBook Pro แบบใหม่หมด นักตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่ใช้ Final Cut Pro บน MacBook Pro ใหม่ จะสามารถทำงานที่ไม่เคยทำได้มาก่อนบน Mac อย่างเช่น การเล่นสตรีมวิดีโอ ProRes ระดับ 8K จำนวน 7 สตรีม หรือการเกลี่ยสีวิดีโอ HDR ระดับ 8K ด้วยจอภาพ Liquid Retina XDR ใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกบนอุปกรณ์โน้ตบุ๊ค Final Cut Pro ยังได้เปิดตัว Object Tracker ใหม่ที่ใช้การเรียนรู้ของระบบในการตรวจจับใบหน้าและวัตถุโดยอัตโนมัติ แล้วจับการเคลื่อนไหวของใบหน้าหรือวัตถุเพื่อสร้างชื่อเรื่องและเอฟเฟ็กต์ที่สวยงามในคุณภาพระดับโรงภาพยนตร์บน Mac ทุกเครื่อง Logic Pro ซอฟต์แวร์สร้างสรรค์เพลงระดับมืออาชีพของ Apple ตอนนี้มาพร้อมชุดเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำเพลงในระบบเสียงตามตำแหน่ง ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถมิกซ์และส่งออกเพลงของตัวเองในแบบ Dolby Atmos สำหรับ Apple Music ได้ และนักดนตรียังสามารถใช้ปลั๊กอินได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าสำหรับการบันทึกเสียงบน MacBook Pro แบบใหม่หมดที่มาพร้อมชิป M1 Max Final Cut Pro และ Logic Pro เป็นแอป Universal ที่ต่อยอดจากประสิทธิภาพอันล้ำสมัยและความสามารถระดับโปรของ macOS Monterey โดยทั้งสองแอปพร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้บน Mac App Store
“ผู้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่สุดในโลกต่างใช้ Final Cut Pro, Logic Pro และเครื่อง Mac ในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ รายการทีวี วิดีโอออนไลน์ เพลง และเพลงประกอบอันน่าทึ่งที่ล้วนมอบความเพลิดเพลินให้กับพวกเรา” Bob Borchers รองประธานฝ่าย Worldwide Product Marketing ของ Apple กล่าว “ด้วยการผสมผสานคุณสมบัติใหม่ที่ทรงพลังใน Final Cut Pro และ Logic Pro ร่วมกับประสิทธิภาพการทำงานในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนของ MacBook Pro ที่ใช้ขุมพลังจากชิป M1 Pro และ M1 Max แบบใหม่หมด ผู้สร้างสรรค์งานมืออาชีพจะสามารถไปสู่ขีดจำกัดใหม่ของความคิดสรรค์ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ผู้ใช้สามารถปลดปล่อยพลังแห่งการสร้างสรรค์ได้จากทุกที่ด้วยขุมพลังที่ยากจะหาใครเทียบและความอเนกประสงค์ของ MacBook Pro
Final Cut Pro 10.6
Final Cut Pro มาพร้อมคุณสมบัติใหม่สุดล้ำที่ช่วยให้นักตัดต่อสามารถสร้างสรรค์กราฟิกแบบเคลื่อนไหวที่มีการติดตามได้อย่างสวยงามและตัดต่อวิดีโอในโหมดภาพยนตร์ที่บันทึกบน iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ได้ นอกจากนี้แอปยังใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างเต็มที่จากชิป M1 Pro และ M1 Max ใน MacBook Pro แบบใหม่หมด ตอนนี้นักตัดต่อวิดีโอสามารถเล่นวิดีโอ ProRes 8K แบบเต็มความละเอียดซึ่งมากกว่า 230 ล้านพิกเซล ได้ถึง 7 สตรีม และส่งออกวิดีโอ ProRes ได้เร็วกว่าเดิมถึง 5 เท่า การอัปเดตในวันนี้ยังรวมถึงการเปิดตัว Object Tracker ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ตัดต่อวิดีโอสามารถสร้างสรรค์กราฟิกเคลื่อนไหวอันสวยงามแบบสะกดสายตาที่จะติดตามการเคลื่อนไหวของใบหน้าในวัตถุหรือวิดีโอได้อย่างง่ายๆ การวิเคราะห์การติดตามการเคลื่อนไหวจะเร็วขึ้นถึง 5 เท่าบน MacBook Pro ใหม่ รุ่น 16 นิ้ว และยังใช้ประโยชน์จากความสามารถของการเรียนรู้ของระบบของ Neural Engine ใน Apple Silicon เพื่อเพิ่มความเร็วในการตรวจจับใบหน้าและวัตถุในวิดีโอ
เครื่องมือ Object Tracker ใหม่ใน Final Cut Pro ช่วยให้ปักหมุดชื่อเรื่องหรือเอฟเฟ็กต์กับใบหน้าและวัตถุเคลื่อนไหวอื่นๆ ได้ง่ายๆ
ผู้ใช้จะสามารถตัดต่อวิดีโอที่บันทึกในโหมดภาพยนตร์บนกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 ใหม่สามารถได้ง่ายๆ ด้วย Final Cut Pro และ Motion โดยมอบความสามารถในการปรับแต่งระยะชัดลึกของทุกช็อตวิดีโอให้กับนักตัดต่อ และใช้คีย์เฟรมในการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และนักตัดต่อสามารถเพิ่มหรือลบจุดโฟกัสต่างๆ ได้ง่ายๆ โดยคลิกที่ใบหน้าหรือวัตถุในหน้าแสดง โดยทำให้ไม่จำเป็นต้องบันทึกวิดีโอใหม่
เมื่อตัดต่อวิดีโอที่บันทึกในโหมดภาพยนตร์ ผู้ใช้ Final Cut Pro จะสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัส รวมถึงแก้ไขความเข้มของเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกได้
และในวันนี้แอปที่ใช้งานร่วมกับ Final Cut Pro อย่าง Motion และ Compressor ก็ได้รับการอัปเดตด้วยเช่นกัน Motion บน MacBook Pro ใหม่ จะสามารถเรนเดอร์โปรเจ็กต์ที่มีความซับซ้อนได้เร็วขึ้นถึง 2 เท่า และสามารถเล่นสตรีมวิดีโอ 8K จำนวน 2 สตรีม ได้ในอัตราเฟรมที่สูงขึ้นถึง 5 เท่า ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานกราฟิกสามารถรวมการติดตามวัตถุกับการพราง รูปร่าง วัตถุ 3D ลักษณะการทำงาน และฟิลเตอร์ เพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ภาพที่สวยงามได้ และฟิลเตอร์ไฟนีออนใหม่ยังเพิ่มความสว่างที่ดึงดูดสายตาให้กับรูปภาพ รูปทรง ข้อความ และอื่นๆ อีกมากมาย
Compressor ที่ใช้งานบน MacBook Pro ใหม่ จะสามารถแปลงไฟล์วิดีโอ HEVC ได้เร็วขึ้นถึง 2 เท่า และแปลงไฟล์วิดีโอ ProRes ได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 10 เท่า นอกจากนี้ Compressor ยังสามารถแปลงไฟล์วิดีโอ Canon Cinema RAW Light เป็นรูปแบบไฟล์สำหรับมืออาชีพอื่นๆ อย่าง ProRes และ H.264 ได้เป็นครั้งแรก และโฟลเดอร์นาฬิกายังช่วยถอดรหัสคอนเทนต์ที่ถูกวางไว้ในโฟลเดอร์ที่กำหนดในระบบไฟล์โดยอัตโนมัติได้อย่างง่ายๆ
ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานกราฟิกสามารถปรับปรุงคุณภาพโปรเจ็กต์ได้ด้วยฟิลเตอร์ไฟนีออนใหม่อันน่าทึ่งใน Motion
Compressor ใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของ MacBook Pro ใหม่โดยสามารถแปลงรหัสวิดีโอ ProRes ได้เร็วขึ้นสูงสุด 10 เท่า
Logic Pro 10.7
ระบบเสียงตามตำแหน่งคือเจเนอเรชั่นใหม่ของเสียงที่มาพร้อมประสบการณ์เสียงแบบปฏิวัติวงการ ควบคู่ไปกับเสียงและความคมชัดในแบบระบบเสียงหลายมิติอย่างแท้จริง Logic Pro ตอนนี้มาพร้อมชุดเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการมิกซ์และเรนเดอร์ ทำให้ใครๆ ก็สามารถแต่งเพลงของตัวเองในรูปแบบไฟล์ Dolby Atmos ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Music ได้ นักดนตรี โปรดิวเซอร์ และวิศวกรผสมเสียงสามารถขยายโปรเจกต์เสียงแบบสเตอริโอไปยังช่องสัญญาณแบบรอบทิศทางที่รองรับโดย Dolby Atmos โดยการใช้การควบคุมการมิกซ์และแพนเนอร์แบบใหม่ นอกจากนี้ ปลั๊กอิน 13 รายการใน Logic Pro ซึ่งประกอบด้วย Space Designer, Limiter, Loudness Meter และ Tremolo ก็ได้รับการอัปเดตให้สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถใหม่ในการสร้างสรรค์นี้ด้วยเช่นกัน เมื่อทำการเผยแพร่เพลงบน Apple Music แล้ว ผู้ฟังจะสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มสมจริงบนอุปกรณ์ของพวกเขาที่รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง MacBook Pro ใหม่จะทำให้นักดนตรีมีประสิทธิภาพการทำงานระดับเวิร์กสเตชั่นสำหรับการสร้างสรรค์มิกซ์ระบบเสียงตามตำแหน่งขนาดใหญ่ พร้อมกับสามารถโหลดคลังตัวอย่างขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และใช้งานปลั๊กอินในการบันทึกเสียงได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 3 เท่า
Logic Pro มาพร้อมกับเครื่องมือ Dolby Atmos ในตัวเพื่อเสริมศักยภาพให้กับนักดนตรีในการมิกซ์เสียงในระบบเสียงตามตำแหน่ง
วันนี้ Logic Pro มาพร้อม Producer Packs ใหม่ที่เปิดตัวใน GarageBand ช่วงกลางปีที่ผ่านมา นักดนตรีสามารถใช้บีท ลูป และแซมเปิ้ลที่สร้างสรรค์โดยผู้สร้างผลงานเพลงสุดฮิตแห่งยุค ไม่ว่าจะเป็น Boys Noize, Mark Lettieri, Mark Ronson, Oak Felder, Soulection, Take A Daytrip, Tom Misch หรือ TRAKGIRL ตอนนี้ผู้ใช้งาน Logic สามารถเข้าถึงลูปใหม่ 2,800 ลูป ชุดอุปกรณ์ใหม่ 50 ชุด และแพตช์ใหม่ 120 แพตช์ ที่สามารถนำไปใช้ประกอบเพลงของพวกเขาได้ทั้งหมดแบบไม่มีลิขสิทธิ์ การอัปเดตยังรวมถึงโปรเจ็กต์ต้นฉบับแบบหลายแทร็คของเพลงฮิตอย่าง “Montero (Call Me by Your Name)” โดย Lil Nas X รวมไปถึงการมิกซ์เสียงในระบบเสียงตามตำแหน่งในแบบ Dolby Atmos ของแทร็คนี้ด้วย
ตอนนี้ Logic Pro มาพร้อม Producer Packs ที่มีบีท ลูป และเครื่องดนตรีจากเหล่าโปรดิวเซอร์ชั้นนำระดับโลก
ราคาและการวางจำหน่าย
- Final Cut Pro 10.6 สามารถอัปเดตได้ฟรีวันนี้สำหรับผู้ที่ใช้งานอยู่แล้ว และผู้ใช้ใหม่สามารถซื้อแอปจาก Mac App Store ได้ในราคา 10,900 บาท
- Motion 5.6 และ Compressor 4.6 ก็สามารถอัปเดตได้ฟรีวันนี้สำหรับผู้ที่ใช้งานอยู่แล้ว และผู้ใช้ใหม่สามารถซื้อแอปจาก Mac App Store ได้ในราคา 1,800 บาท ต่อแอป
- Logic Pro 10.7 ก็สามารถอัปเดตได้ฟรีวันนี้สำหรับผู้ที่ใช้งานอยู่แล้ว และผู้ใช้ใหม่สามารถซื้อแอปจาก Mac App Store ได้ในราคา 7,200 บาท
- ผู้ใช้งาน Mac สามารถลงทะเบียนทดลองใช้งาน Final Cut Pro และ Logic Pro ได้ฟรี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ apple.com/final-cut-pro และ apple.com/logic-pro ลูกค้าในโครงการเพื่อการศึกษาสามารถซื้อ Pro Apps Bundle เพื่อการศึกษาได้ในราคา 6,900 บาท
ที่มา : Apple Newsroom