MacBook Pro พร้อมชิป M1 Pro และ M1 Max อันเหนือชั้น มีประสิทธิภาพและระยะเวลาการ ใช้งานแบตเตอรี่ที่เยี่ยมยอด ทั้งยังมีจอภาพโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุด ในโลกด้วย
MacBook Pro ใหม่มาพร้อมกล้องความละเอียด 1080p, ระบบเสียงที่ดีที่สุดในโน้ตบุ๊ก และการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน MacBook Pro
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว ที่คิดขึ้นใหม่หมดในทุกรายละเอียดมาพร้อมขุมพลังอย่างชิป M1 Pro และ M1 Max แบบใหม่หมด
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย – วันนี้ Apple เผยโฉม MacBook Pro ที่คิดขึ้นใหม่หมดในทุกรายละเอียดพร้อมด้วยขุมพลังอย่างชิป M1 Pro และ M1 Max แบบใหม่หมด ซึ่งถือเป็นชิประดับโปรคู่แรกที่ออกแบบมาเพื่อ Mac โดยครั้งนี้ MacBook Pro ซึ่งมีให้เลือกระหว่างรุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว มาพร้อมประสิทธิภาพที่แรงเหลือล้นทั้งในด้านการประมวลผล กราฟิก และการเรียนรู้ของระบบ (ML) ไม่ว่าจะทำงานด้วยแบตเตอรี่หรือเสียบปลั๊ก และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานอย่างน่าทึ่ง จึงสามารถทำเวิร์กโฟลว์ต่างๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อนบนโน้ตบุ๊ก นอกจากนี้ MacBook Pro ใหม่ยังมีจอภาพ Liquid Retina XDR ที่งดงาม, หลากหลายพอร์ตเพื่อการเชื่อมต่ออันล้ำสมัย, กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p และระบบเสียงที่ดีที่สุดในโน้ตบุ๊ก ซึ่งเมื่อรวมกับ macOS Monterey ที่ออกแบบชนิดลงลึกถึงแก่นเพื่อใช้ประโยชน์เต็มที่จากชิป M1 Pro และ M1 Max แล้ว จึงสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานในระดับที่ยากจะหาใครเทียบ และ MacBook Pro ยังทลายทุกขีดจำกัดของสิ่งที่โน้ตบุ๊กทำได้ เพราะออกแบบมาสำหรับนักพัฒนา, ช่างภาพ, ผู้สร้างภาพยนตร์, ศิลปิน 3D, นักวิทยาศาสตร์, โปรดิวเซอร์เพลง และใครก็ตามที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดในโลก MacBook Pro ใหม่จะเข้ามาเสริมทัพของ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้วพร้อมชิป M1 เพื่อสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กระดับโปรที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดย MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว ใหม่จะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้
“เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างโน้ตบุ๊กระดับโปรที่ดีที่สุดในโลก และวันนี้เรายินดีอย่างยิ่งกับการเปิดตัว MacBook Pro แบบใหม่หมดที่มาพร้อมชิป M1 Pro และ M1 Max ซึ่งพร้อมสร้างปรากฏการณ์ด้วยการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ และคุณสมบัติสุดล้ำต่างๆ” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “MacBook Pro แบบใหม่หมดนี้ยังมาพร้อมจอภาพ XDR ที่สวยสดงดงาม, พอร์ตที่มีให้มากขึ้นอย่าง MagSafe 3, กล้อง 1080p ที่ล้ำสมัย และระบบเสียง 6 ลำโพงที่เต็มอิ่ม ทั้งหมดนี้ในดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตา พูดง่ายๆ ว่า MacBook Pro ใหม่นั้นไม่มีใครเทียบได้ และจัดเป็นโน้ตบุ๊กระดับโปรที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างมาเลยทีเดียว”
MacBook Pro ใหม่โดดเด่นด้วยจอภาพ Liquid Retina XDR ที่ใหญ่เต็มตาและมาพร้อม ProMotion
ชิประดับโปรคู่ใหม่ เพื่อประสิทธิภาพระดับพลิกวงการ
ชิป M1 Pro ยกระดับสถาปัตยกรรมของชิป M1 ที่เหนือชั้นอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วย CPU อันทรงพลังสูงสุด 10 คอร์ ซึ่งประกอบด้วย 8 คอร์ประสิทธิภาพสูง และ 2 คอร์ประหยัดพลังงานสูง พร้อมด้วย GPU สูงสุด 16 คอร์ ทั้งหมดนี้ทำให้ชิป M1 Pro มีประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้นสูงสุด 70% เมื่อเทียบกับชิป M1 และมีประสิทธิภาพ GPU เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า นอกจากนี้ชิป M1 Pro ยังมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุด 200GB/s หรือมากกว่าแบนด์วิดท์ของชิป M1 เกือบ 3 เท่า และรองรับหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วสูงสุด 32GB เท่านั้นยังไม่พอ เพราะชิป M1 Pro นั้นออกแบบมาเพื่อติดปีกให้กับเวิร์กโฟลว์งานวิดีโอระดับโปรโดยการใส่ตัวเร่งความเร็ว ProRes เพิ่มมาในมีเดียเอนจิ้นเพื่อการประมวลผลวิดีโอที่เร็วเหลือเชื่อแต่ยังคงประหยัดพลังงาน
MacBook Pro ใหม่มีขุมพลังอย่างชิป M1 Pro และ M1 Max จึงสามารถทำเวิร์กโฟลว์ต่างๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อนบนโน้ตบุ๊ก
ชิป M1 Max คือชิปที่ทรงพลังที่สุดในโลกสำหรับโน้ตบุ๊กระดับโปร และต่อยอดมาจากชิป M1 Pro เพื่อยกระดับความสามารถที่น่าทึ่งให้ล้ำหน้ายิ่งขึ้นไปอีก ชิป M1 Max มาพร้อม CPU แบบ 10-core อันทรงพลังไม่ต่างจาก M1 Pro แต่มี GPU มากขึ้นอีกสองเท่าเป็นสูงสุด 32 คอร์ จึงมีประสิทธิภาพ GPU เร็วกว่าชิป M1 สูงสุด 4 เท่า ทั้งยังมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุด 400GB/s หรือ 2 เท่าของชิป M1 Pro และเกือบ 6 เท่าของชิป M1 และมีหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วสูงสุด 64GB ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่แล็ปท็อป PC รุ่นล่าสุดมีหน่วยความจำวิดีโอสูงสุดเพียง 16GB การมีหน่วยความจำมากขนาดนี้จึงถือเป็นสิ่งที่พลิกวงการสำหรับการทำงานระดับโปรเลยทีเดียว ช่วยให้มือโปรสามารถทำอะไรๆ อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อนบนโน้ตบุ๊ก อย่างศิลปิน 3D ที่วันนี้สามารถใช้ MacBook Pro เพื่อทำงานกับรูปทรงเรขาคณิตและลวดลายที่สลับซับซ้อนสุดๆ ในฉากที่แม้แต่แล็ปท็อป PC ระดับโปรยังรับมือไม่ไหว1 นอกจากนี้ชิป M1 Max ยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นที่ดียิ่งขึ้นพร้อมด้วยตัวเร่งความเร็ว ProRes สองตัวเพื่อประสิทธิภาพการทำงานแบบหลายสตรีมที่สูงขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ มือโปรสามารถตัดต่อวิดีโอ ProRes ระดับ 4K ได้สูงสุด 30 สตรีม หรือวิดีโอ ProRes ระดับ 8K ได้สูงสุด 7 สตรีมใน Final Cut Pro ซึ่งสูงกว่า Mac Pro แบบ 28-core พร้อม Afterburner เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกบน Mac ที่นักตัดต่อวิดีโอสามารถปรับแก้สีแบบ HDR กับวิดีโอ ProRes 4444 ระดับ 8K ได้เลยขณะใช้แบตเตอรี่โดยไม่ต้องพึ่งห้องตัดต่อ2
ชิป M1 Pro มาพร้อม CPU สูงสุด 10 คอร์, GPU สูงสุด 16 คอร์, แบนด์วิดท์หน่วยความจำ 200GB/s, หน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วสูงสุด 32GB และตัวเร่งความเร็ว ProRes ในมีเดียเอนจิ้น
โน้ตบุ๊ก Mac ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อม CPU แบบ 10-core ในชิป M1 Pro และ M1 Max สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- สร้างโปรเจ็กต์ด้วย Xcode ได้เร็วขึ้นสูงสุด 3.7 เท่า
- ใส่ปลั๊กอิน Amp Designer ใน Logic Pro ได้มากขึ้นสูงสุด 3 เท่า
- มีประสิทธิภาพพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณใน NASA TetrUSS เร็วขึ้นสูงสุด 2.8 เท่า
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อม GPU แบบ 16-core ในชิป M1 Pro และ GPU แบบ 32-core ในชิป M1 Max สามารถพลิกโฉมเวิร์กโฟลว์ที่เน้นกราฟิกหนักๆ ได้ดังนี้
- เรนเดอร์ระดับ 4K ใน Final Cut Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 9.2 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 13.4 เท่าด้วยชิป M1 Max
- มีประสิทธิภาพ GPU ด้านเวคเตอร์และราสเตอร์รวมกันใน Affinity Photo เร็วขึ้นสูงสุด 5.6 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 8.5 เท่าด้วยชิป M1 Max
- เรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ใน Blackmagic Design DaVinci Resolve Studio ได้เร็วขึ้นสูงสุด 3.6 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 5 เท่าด้วยชิป M1 Max
ทั้งชิป M1 Pro และ M1 Max มาพร้อมขุมพลังสุดแรงอย่าง Neural Engine แบบ 16-core จึงสามารถทำงาน ML ได้เร็วขึ้นดังนี้
- ประสิทธิภาพการติดตามวัตถุใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 8.7 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 11.5 เท่าด้วยชิป M1 Max
- ทำ Scene Edit Detection กับวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 1080p ใน Adobe Premiere Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 7.2 เท่า
- มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 2.6 เท่าเมื่อเลือกตัวแบบในภาพใน Adobe Photoshop
MacBook Pro ใหม่ก้าวข้ามขีดจำกัดของสิ่งที่โน้ตบุ๊กทำได้ ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นมากแม้แต่กับเวิร์กโฟลว์ที่ต้องประมวลผลหนักๆ
MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อม CPU แบบ 10-core ที่ทรงพลังเท่ากันในชิป M1 Pro และ M1 Max สามารถทำสิ่งต่อไปนี้
- มีประสิทธิภาพพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณใน NASA TetrUSS เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า
- สร้างโปรเจ็กต์ใน Xcode ได้เร็วขึ้นสูงสุด 2.1 เท่า
- ประสิทธิภาพในการเผยแพร่เร็วขึ้นสูงสุด 2.1 เท่าใน Vectorworks
MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อม GPU แบบ 16-core ในชิป M1 Pro และ GPU แบบ 32-core ในชิป M1 Max มีประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นดังนี้
- มีประสิทธิภาพ GPU ด้านเวคเตอร์และราสเตอร์รวมกันใน Affinity Photo เร็วขึ้นสูงสุด 2.9 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 4.5 เท่าด้วยชิป M1 Max
- เรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ใน Maxon Cinema 4D พร้อม Redshift ได้เร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 4 เท่าด้วยชิป M1 Max
- เรนเดอร์ระดับ 8K ใน Final Cut Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 1.7 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 2.9 เท่าด้วยชิป M1 Max
MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อม Neural Engine แบบ 16-core ในชิป M1 Pro และ M1 Max สามารถทำงานด้าน ML ได้เร็วยิ่งกว่าที่เคยดังนี้
- ทำ Scene Edit Detection กับวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 1080p ใน Adobe Premiere Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 4.4 เท่า
- ประสิทธิภาพการติดตามวัตถุใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 3.6 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 4.9 เท่าด้วยชิป M1 Max
- มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 1.5 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 2 เท่าด้วยชิป M1 Max เมื่อเลือกตัวแบบในภาพใน Adobe Photoshop
MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว สามารถเรนเดอร์ระดับ 8K ใน Final Cut Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 1.7 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 2.9 เท่าด้วยชิป M1 Max
ประหยัดพลังงานชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานเหลือเชื่อ
เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าแล้ว MacBook Pro สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้จากการชาร์จครั้งเดียว5
- รุ่น 14 นิ้ว เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 7 ชั่วโมง ในขณะที่รุ่น 16 นิ้ว เล่นวิดีโอได้นานสูงสุดถึง 21 ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 10 ชั่วโมง จึงเรียกได้ว่าเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโน้ตบุ๊ก Mac
- นักพัฒนาที่ทำงานใน Xcode จะสามารถคอมไพล์โค้ดได้มากขึ้นสูงสุด 4 เท่า
- ช่างภาพจะสามารถใช้งาน Adobe Lightroom Classic ขณะเดินทางได้นานขึ้นสูงสุด 2 เท่า
MacBook Pro มีประสิทธิภาพในระดับเดียวกันเสมอไม่ว่าจะเสียบปลั๊กหรือใช้แบตเตอรี่ ซึ่งต่างจากโน้ตบุ๊กระดับโปรอื่นๆ ที่ประสิทธิภาพลดลงเมื่อไม่ได้เสียบปลั๊ก และการผสมผสานที่ลงตัวเช่นนี้ ระหว่างประสิทธิภาพของระบบ ประสิทธิภาพขณะใช้แบตเตอรี่ และระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงทำให้ MacBook Pro แตกต่างจากโน้ตบุ๊กอื่นๆ ทั้งหมด
MacBook Pro ปลดปล่อยประสิทธิภาพระดับพลิกวงการ และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน Mac ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำอะไรๆ ได้มากยิ่งกว่าที่เคยขณะเดินทาง
ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพ
MacBook Pro รุ่น 14 และ 16 นิ้ว มาพร้อมดีไซน์สดใหม่อันสวยงามที่ออกแบบมาโดยเน้นเรื่องประสิทธิภาพและประโยชน์ใช้สอยเป็นสำคัญ เริ่มจากตัวเครื่องอะลูมิเนียมภายนอกแบบใหม่หมดที่จัดสรรพื้นที่ภายในอย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณสมบัติต่างๆ ตัวเครื่องได้รับการตัดแต่งรูปทรงอย่างแม่นยำโดยที่ภายในมีระบบควบคุมความร้อนอันล้ำสมัยที่สามารถถ่ายเทอากาศได้มากขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แม้ความเร็วของพัดลมจะต่ำกว่าเดิม และดีไซน์เพื่อการควบคุมความร้อนนี้เองคือสิ่งที่ทำให้ MacBook Pro มีประสิทธิภาพแรงสุดขั้วได้นานต่อเนื่องโดยที่ยังคงเย็นและเงียบ นอกจากนี้ เนื่องจาก Apple Silicon ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัดลมจึงแทบไม่ต้องทำงานเลยสำหรับงานส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน
MacBook Pro ใหม่ยังมาพร้อม Magic Keyboard ซึ่งวางอยู่ในแอ่งสีดำที่ผ่านการชุบผิวสองชั้น ช่วยเสริมให้อักขระบนปุ่มที่มีแบ็คไลท์ส่องสว่างดูโดดเด่นสวยงาม และยังมีแถวปุ่มฟังก์ชั่นแบบเต็มขนาดด้วย ส่วน Touch Bar ก็ถูกแทนที่ด้วยปุ่มฟังก์ชั่นจริงๆ รวมถึงปุ่ม Escape ที่กว้างขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ระดับโปรได้สัมผัสกับแรงตอบสนองที่คุ้นเคยเมื่อกดเหมือนกับปุ่มแบบกลไกที่ชื่นชอบ และคีย์บอร์ดใหม่นี้ก็มาคู่กับแทร็คแพด Force Touch ที่ดีที่สุดและเหมาะสมลงตัวสำหรับแอปพลิเคชันระดับโปร
MacBook Pro มาพร้อม Magic Keyboard ที่มีแถวปุ่มฟังก์ชั่นแบบเต็มขนาดและแทร็คแพด Force Touch ที่ดีที่สุด
สะกดทุกสายตาด้วยจอภาพโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดในโลก
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับจอภาพขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยที่รุ่น 16 นิ้ว มีจอภาพที่ใหญ่เต็มตาขนาด 16.2 นิ้ว6 พร้อมจำนวนพิกเซลมากถึง 7.7 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโน้ตบุ๊ก Mac ในขณะที่รุ่น 14 นิ้ว มีพื้นที่บนหน้าจอมากยิ่งกว่าที่เคยด้วยพื้นที่แสดงผลขนาด 14.2 นิ้ว7 และมีจำนวนพิกเซลทั้งหมดมากถึง 5.9 ล้านพิกเซล ซึ่งมากกว่า MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นก่อนหน้าด้วยซ้ำ นอกจากนี้จอภาพยังมีขอบที่แคบลง และขยายกว้างขึ้นไปจนรอบกล้องเพื่อให้ผู้ใช้มีพื้นที่สำหรับคอนเทนต์มากขึ้น ทีนี้ไม่ว่าจะดูภาพยนตร์หรือปรับแก้สีในวิดีโอระดับ 8K จอภาพใหม่ก็พร้อมมอบประสบการณ์ด้านภาพที่สวยงามสมจริงระดับโรงภาพยนตร์
นี่คือครั้งแรกที่ MacBook Pro มาพร้อมกับจอภาพ Liquid Retina XDR อันงดงาม ซึ่งเป็นจอภาพโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดในโลก
การเชื่อมต่อที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน MacBook Pro
MacBook Pro มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโน้ตบุ๊ก Mac ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับ Pro Display XDR ได้สูงสุด 3 จอ และทีวี 4K อีกหนึ่งเครื่องพร้อมกัน
กล้องและระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโน้ตบุ๊ก Mac
MacBook Pro มาพร้อมกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p ที่ใช้ ISP และ Neural Engine ของชิป M1 Pro และ M1 Max ในการประมวลผลวิดีโอด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อยกระดับคุณภาพของวิดีโอให้ดียิ่งขึ้น
MacBook Pro ใหมพร้อมมอบประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีขึ้นอีกระดับด้วยไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอที่มีระดับเสียงรบกวนต่ำยิ่งกว่าเดิม ช่วยให้คุยโทรศัพท์และบันทึกเสียงได้ชัดเจนขึ้น ส่วนระบบเสียง 6 ลำโพงที่คมชัดก็มีทวีตเตอร์ 2 ตัวเพื่อสร้างมิติเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมวูฟเฟอร์แบบตัดแรงสั่น 4 ตัวที่เพิ่มเสียงเบสอีก 80% อีกทั้งยังรองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง ซึ่งสร้างประสบการณ์การฟังแบบ 3 มิติที่มีความสมจริง ดังนั้นไม่ว่าผู้ใช้จะฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์ในแบบ Dolby Atmos ก็จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ระดับโรงภาพยนตร์ และเมื่อรวมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันจึงได้เป็นระบบเสียงที่ดีที่สุดในโน้ตบุ๊กอย่างไม่ต้องสงสัย
macOS Monterey ปรับแต่งมาอย่างลงตัวสำหรับชิป M1 Pro และ M1 Max
ดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
Credit : Apple Newsroom