หากจะเรียกว่ายุคนี้เป็นยุคของการทำงานแบบ Work from Home ก็คงไม่ผิดนัก บางออฟฟิศเริ่มปรับตัวได้แล้ว แต่บางออฟฟิศก็ยังเป็นเรื่องใหม่ ทำให้หลายๆ คนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน และอาจเจอปัญหา

ยิ่งบางคนนั้นไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน มีแต่ iPad แล้วเราจะทำงานได้หรือเปล่า จะยุ่งยากในการทำงานร่วมกับทีมที่ใช้อุปกรณ์ต่างกันหรือไม่ บอกเลยว่าเรื่องนี้แก้ได้ด้วยตัวช่วยอย่าง Microsoft 365 แต่จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง แล้วจะช่วยให้เรา Work from Home ง่ายขึ้นได้ยังไง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง

ทำงานร่วมกันอย่าง Real-Time ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

สิ่งแรกเลยที่ Microsoft 365 นั้นเหมาะกับการทำงานแบบ WFH ก็คือการที่ให้เราสามารถทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานได้ทุกที่ทุกเวลา

ด้วยการแชร์ไฟล์พร้อมเปิดให้แก้ไขเอกสารผ่านระบบ OneDrive ให้เพื่อนร่วมงานเข้ามาแก้ไขไปพร้อมๆ กันกับเราแบบทันทีอีกด้วย สามารถใช้งานได้ทั้ง Word, Excel, PowerPoint ถึงจะอยู่กันคนละที่ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้วงานนี้

รวมไปถึงยังสามารถแสดงความคิดเห็นบนเอกสาร พร้อมเมนชันผ่านการพิมพ์สัญลักษณ์ @ ต่อด้วยชื่อของบุคคลที่เรากล่าวถึง เพื่อแจ้งเตือนบุคคลนั้นผ่านทางอีเมล ที่จะลิงก์ไปยังความคิดเห็นของเราอีกด้วยนะ

แถมยังหมดห่วงเรื่องลืมเซฟเอกสาร หรืออุปกรณ์เกิดติดขัดจนไม่ทันได้เซฟไฟล์ ด้วยฟังก์ชันบันทึกอัตโนมัติ เพียงแค่เปิดใช้การบันทึกงานแบบ AutoSave 

ติดตั้งและใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ รองรับสูงสุด 6 Users

ปัจจุบันอุปกรณ์ในการทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน๊ตบุ๊คเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตก็ล้วนทำงานได้เหมือนกัน 

โดยเฉพาะการทำงานร่วมกันกับทีมที่ต่างคนก็ต่างใช้อุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งทำงานคนเดียว แต่อุปกรณ์ที่มีนั้นใช้ระบบปฏิบัติการต่างกันก็ตาม ฉะนั้นอาจเจอปัญหาเรื่องของอุปกรณ์ได้ เช่น ใช้งานโน้ตบุ๊คบน Windows 10 แต่บางครั้งมีความจำเป็นต้องทำงานบน iPad เอาล่ะ ปัญหาเรื่องการทำงานด้านเอกสารเกิดแล้วทีนี้ เปิดไม่ติดบ้าง หรือไฟล์แสดงผลผิดเพี้ยนบ้าง 

เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากเราใช้งาน Microsoft 365 เพราะ Microsoft 365 นั้นใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Mac หรือ PC รวมไปถึงอุปกรณ์พกพาอย่าง iPad และ iPhone ผ่าน App Store หรือระบบ Android ผ่าน Google Play พร้อมที่สุดของความคุ้มค่า ใช้ได้งานสูงสุด 6 Users ใน Microsoft 365 Family

ได้พื้นที่เก็บข้อมูลบน OneDrive 1TB

แน่นอนว่าพื้นที่เก็บข้อมูลสำคัญเสมอ ยิ่งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีคลาวด์ที่ให้เราเก็บข้อมูลบนออนไลน์ หมดภาระที่ต้องคอยพกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลไปไหนมาไหน

Microsoft 365 มอบพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ OneDrive ให้เราถึง 1TB (1000GB) ให้เราได้มีพื้นที่สำรองข้อมูล เก็บไฟล์เอกสารไว้ พร้อมสำหรับการเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาอีกด้วย และด้วยพื้นที่ขนาดนี้ ทำให้เราสามารถเก็บบันทึกภาพถ่ายและไฟล์ต่างๆ ได้ถึง 500,000 ไฟล์ (ประมาณการว่าแต่ละไฟล์มีขนาด 2MB) รวมไปถึงการสำรองภาพถ่ายเก็บไว้บน OneDrive ในทันที เมื่อถ่ายรูปจาก iPad หรือ iPhone

หากใครใช้งานแบบ Microsoft 365 Family ล่ะก็ยิ่งคุ้มค่า เพราะจะได้พื้นที่ไปคนละ 1TB รวม 6 คนก็ 6TB เลยนะเนี่ย 

สร้างสรรค์ Presentation ได้อย่างมืออาชีพกับฟังก์ชัน Designer

เคยไหมกับปัญหาในการทำไฟล์ Presentation ที่ไม่รู้จะออกแบบยังไงดี จัดยังไงก็ไม่ลงตัวสักที และใน Microsoft 365 มาพร้อมระบบ AI อัจฉริยะ ตัวช่วยที่จะทำให้เราออกแบบงานนำเสนอได้อย่างง่ายมากขึ้น

กับฟังก์ชัน PowerPoint Designer โดยโปรแกรมจะช่วยจัดเรียงรูปแบบมาให้เลือกอัตโนมัติ เพียงแค่เราวางภาพหรือพิมพ์ข้อความลงไปในสไลด์เท่านั้น! ช่วยจัดรูปแบบได้สวยงามเหมาะสม และประหยัดเวลาได้เยอะ

โทรศัพท์ผ่าน Skype ได้ฟรีเดือนละ 60 นาที

การติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานแบบ WFH แล้ว จะติดต่อใครสักคนก็ต้องแชทหาหรือไม่ก็โทรศัพท์คุย จะเดินไปสะกิดเพื่อนโต๊ะข้างๆ เหมือนสมัยเข้าออฟฟิศไม่ได้แล้วเพราะอยู่กันคนละที่

และการสมัคร Microsoft 365 ให้เราได้โทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชัน Skype ไปยังเบอร์มือถือ เบอร์สำนักงาน ได้ฟรีถึง 60 นาทีต่อเดือนอีกด้วย ทั้งสะดวกและเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเลยล่ะ

เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 ฟีเจอร์ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ น่าสนใจและตอบโจทย์การทำงานของเพื่อนๆ กันไหมเอ่ย สำหรับใครที่สนใจเป็นเจ้าของ Microsoft 365 สามารถซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้าน Studio7 หรือช้อปออนไลน์ที่